ชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ต้องมีครบองค์ประกอบทั้งพ่อ แม่ ลูก การวางแผนครอบครัวจึงสำคัญไม่แพ้การวางแผนทางการเงิน โดยเฉพาะการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน นอกจากทำให้ทราบว่าสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่พร้อมแค่ไหน หากพบปัญหามีบุตรยากย่อมสามารถรับมือได้ทันท่วงที ช่วยให้การมีเจ้าตัวเล็กเป็นไปอย่างราบรื่น
ตรวจก่อนแต่งนั้นสำคัญ
การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานนั้นมีความสำคัญกับชีวิตครอบครัว ทำให้ทราบถึง
- ความพร้อมในการมีบุตร
- ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการมีบุตร
- แนวทางการตรวจและดูแลร่างกายให้พร้อมสำหรับการมีบุตร
ตรวจให้ครบก่อนแต่ง
สำหรับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน แพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการซักประวัติโดยละเอียด ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจ ซึ่งประกอบไปด้วย
- ตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อดูความสมบูรณ์ของร่างกายคุณพ่อและคุณแม่ ได้แก่ การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต ตรวจการทำงานของระบบหายใจ การทำงานของหัวใจ รวมถึงการตรวจเต้านมและตรวจหน้าท้องร่วมด้วย
- ตรวจเลือดดูความพร้อมประเมินความเสี่ยง โดยจะทำการตรวจดูกรุ๊ปเลือด ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงที่นำไปสู่ภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโลหิตจาง ตรวจดูภูมิต้านทานที่ควรมี เช่น ภูมิต้านทานหัดเยอรมัน ไวรัสตับอักเสบบีตรวจดูความเสี่ยง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่อายุเกิน 35 ปี หากมีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์ อาจเป็นอันตรายขณะตั้งครรภ์ได้หากไม่ได้ควบคุมหรือดูแลอย่างเหมาะสม เพราะบางโรคในขณะตั้งครรภ์ไม่สามารถทานยาได้ ตรวจโรคทางพันธุกรรม โดยเฉพาะพันธุกรรมแฝงอย่างธาลัสซีเมียที่คนไทยมีภาวะแฝงจากโรคนี้ถึง 45%
- ตรวจภายใน เพื่อดูความปกติของมดลูกและรังไข่ เพื่อดูว่ามีเนื้องอกมดลูก ช็อกโกแลตซีสต์ และความผิดปกติต่าง ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งมีผลต่อการตั้งครรภ์โดยตรง รวมทั้งการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกเมื่อถึงวัย ผู้ที่มีความเสี่ยงคือผู้ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ แต่หากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไปก็ควรตรวจค้นหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมด้วย
ตรวจอัลตราซาวนด์เพิ่มความมั่นใจก่อนมีบุตร
การตรวจอัลตราซาวนด์ก่อนแต่งงาน ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ โดยจะช่วยให้การตรวจวินิจฉัยละเอียด ถูกต้อง ชัดเจน ซึ่งการตรวจอัลตราซาวนด์เป็นไปเพื่อ
- ตรวจดูสุขภาพของมดลูกและรังไข่
- ตรวจดูพยาธิสภาพที่เป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ เช่น เนื้องอกมดลูก ช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ ประจำเดือนมากผิดปกติ มีลิ่มเลือด เป็นต้น
- ตรวจดูการทำงานของรังไข่ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ไข่ไม่ตก
ยิ่งมีบุตรยากยิ่งต้องตรวจก่อนแต่ง
ช่วงวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงคือ อายุ 18 – 35 ปี ตามบัญญัติขององค์การอนามัยโลก แต่ตามสถิติพบว่า 20 – 30% ของคู่สมรสกลับต้องประสบปัญหามีบุตรยาก ที่น่าสนใจคือ กว่าจะทราบว่าตนเองมีบุตรยาก มักจะรู้หลังจากแต่งงานไปนานเป็นปี ๆ แล้ว เสียเวลาและโอกาสไปโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงที่แต่งงานตอนอายุเกิน 35ปี เพราะความสามารถในการเจริญพันธุ์เริ่มลดลงเร็วทุก ๆ ปีตามรังไข่ที่เสื่อมคุณภาพจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น โอกาสในการมีบุตรยากจึงสูง แต่มีข่าวดีที่ว่า 70% ของคู่สมรสที่มีบุตรยากสามารถหาสาเหตุได้ไม่ยาก หากปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการและตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ดังนั้นการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานจึงช่วยให้ทราบข้อมูลแต่เนิ่น ๆ หากมีปัญหามีบุตรยากและไม่เสียโอกาสถ้าต้องการมีบุตร
ความเสี่ยงจากการไม่ตรวจก่อนแต่ง
- ขาดการวางแผนในการมีบุตร
- เสียเวลาและโอกาสในการแก้ไขภาวะมีบุตรยากแต่เนิ่น ๆ
- เครียดและกังวลเมื่อตั้งครรภ์ เพราะขาดการเตรียมตัวเตรียมใจที่ดี
- พบภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์สูงกว่าปกติ เช่น โลหิตจาง เบาหวาน ไทรอยด์ ครรภ์เป็นพิษ
- ทารกอาจเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์หรือเจริญเติบโตช้า เกิดภาวะแท้งบุตร หรือ คลอดก่อนกำหนด