การคิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น และปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข อยู่กับคนอื่นเป็น มีความสุขเป็น คือการฝึกทักษะสมองสำคัญที่เรียกว่า Executive Functions หรือ EF ซึ่งช่วยให้เด็กเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะเด็กที่มีปัญหาทางด้านสมาธิ หากไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้องอาจทำให้มีปัญหาด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิต การเรียน และการเข้าสังคมในอนาคต การฝึกทักษะสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย
รู้จัก Executive Functions (EF)
ทักษะ EF หรือ Executive Functions ทักษะการบริหารจัดการตนเองขั้นสูง เป็นกระบวนการทางความคิดระดับสูงของสมองส่วนหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำ เป็นทักษะที่ทุกคนต้องใช้และมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในชีวิต ซึ่งมนุษย์ไม่ได้เกิดมาพร้อมทักษะ EF แต่สามารถพัฒนาได้ด้วยการฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะ EF คืออายุ 4 – 6 ขวบ เพราะสมองส่วนหน้าพัฒนาได้มากที่สุด
ฝึกทักษะ Executive Functions (EF)
ทักษะ EF หรือ Executive Functions มีทั้งหมด 9 ด้าน โดยแบ่งออกเป็นทักษะพื้นฐาน (Basic) 3 ด้าน และทักษะสูง (Advance) 6 ด้าน ได้แก่
ทักษะพื้นฐาน (Basic) ประกอบไปด้วย
1) Working Memory (ความจำเพื่อใช้งาน) คือ ความสามารถในการเก็บข้อมูลเพื่อประมวลผลและดึงข้อมูลที่เก็บในคลังสมองออกมาใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการ
2) Inhibitory Control (ยั้งคิด ไตร่ตรอง) คือ ความสามารถในการยั้งคิดไตร่ตรอง สามารถควบคุมความต้องการ หยุดคิดก่อนที่จะทำหรือพูดได้
3) Shifting หรือ Cognitive Flexibility (ยืดหยุ่นความคิด) คือ ความสามารถในการยืดหยุ่นทางความคิด ร่วมแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน รู้จักพลิกแพลงและปรับตัว เป็นจุดเริ่มต้นของการมีความคิดสร้างสรรค์และคิดนอกกรอบ
ทักษะสูง (Advance) ประกอบไปด้วย
4) Focus หรือ Attention (จดจ่อ ใส่ใจ) คือ ความสามารถในการใส่ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยไม่วอกแวก รู้จักการทำงานให้เสร็จเป็นอย่าง ๆ ไป
5) Emotional Control (ควบคุมอารมณ์) คือ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จัดการกับอารมณ์ตนเองไม่ให้รบกวนผู้อื่น ไม่โกรธเกรี้ยว ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่ายเกินไป รู้จักแสดงอารมณ์อย่างถูกวิธี
6) Self – Monitoring (ติดตาม ประเมินตนเอง) คือ การประเมินตนเองเพื่อหาจุดบกพร่องแล้วนำมาแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้น รู้จักไตร่ตรองว่าตัวเองทำอะไร รู้ว่าตัวเองทำอะไร และรู้ว่าใกล้จะเสร็จหรือเรียบร้อยแล้ว
7) Initiating (ริเริ่มและลงมือทำ) คือ ความสามารถในการริเริ่มและลงมือทำ กล้าคิดกล้าทำ ลงมือทำทันที ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
8) Planning and Organizing (วางแผน จัดระบบ ดำเนินการ) คือ การวางแผนจัดการตนเองอย่างเป็นขั้นตอน ดำเนินการตั้งแต่วางเป้าหมาย มองเห็นภาพรวม รู้จักจัดลำดับความสำคัญ จัดระบบ ดำเนินการ และประเมินผล
9) Goal – Directed Persistence (มุ่งเป้าหมาย) คือ การวางเป้าหมายที่ชัดเจน มีความพากเพียรและความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมาย รู้จักฝ่าฟันอุปสรรค หากล้มต้องรู้จักลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
สัญญาณความบกพร่อง EF
สัญญาณที่สามารถบ่งชี้ว่าเด็กมีความบกพร่องในการบริหารจัดการตนเองหรือมีปัญหาเกี่ยวกับทักษะ EF หรือ Executive Functions ได้แก่
ปัญหาด้านการยับยั้ง
- ไม่รู้ว่าพฤติกรรมตนเองมีผลกระทบหรือรบกวนผู้อื่น
- อยู่ไม่สุข กระสับกระส่าย บิดไปบิดมา
- วอกแวกง่ายขณะทำกิจกรรม
- ขาดความยับยั้งชั่งใจ หุนหันพลันแล่น
ปัญหาด้านการปรับเปลี่ยนและการคิดยืดหยุ่น
- มีปัญหาการปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่
- อารมณ์เสียเมื่อมีการเปลี่ยนแผนหรือเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน
- ใช้เวลานานกว่าจะรู้สึกวางใจในสถานที่ใหม่หรือสิ่งแวดล้อมใหม่
ปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์
- ระเบิดอารมณ์โกรธรุนแรง
- โกรธฉุนเฉียวด้วยเหตุผลเพียงเล็กน้อย
- เมื่อผิดหวังจะเสียใจนานกว่าเด็กคนอื่น
ปัญหาด้านความจำขณะทำงาน
- หากสั่งให้ทำงานสองอย่าง เด็กสามารถจำได้แค่คำสั่งแรกหรือคำสั่งสุดท้ายเท่านั้น
- ทำผิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ แม้เคยสอนหรือช่วยเหลือไปแล้ว
- ลืมว่ากำลังทำอะไรขณะทำกิจกรรมนั้นอยู่
ปัญหาด้านการวางแผนจัดการ
- ต้องบอกให้ริเริ่มลงมือทำงาน แม้ว่าเด็กจะเต็มใจทำ
- ไม่สามารถหาเสื้อผ้า รองเท้า ของเล่น หนังสือเจอ แม้ว่าจะชี้แนะอย่างเฉพาะเจาะจงแล้ว
- ทิ้งของเกลื่อนกลาดต้องให้คนอื่นเก็บให้ แม้ว่าจะได้รับการสอนหรือแนะนำแล้ว
- ติดอยู่ในรายละเอียดเพียงเล็กน้อยของงานหรือสถานการณ์หนึ่ง แต่ลืมเรื่องหลักที่สำคัญไป
- ไม่สามารถทำงานให้เสร็จได้ แม้จะได้รับการแนะแนวทางแล้ว
(ที่มาข้อมูล : รศ.ดร.นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล)
EF แก้ปัญหาสมาธิสั้น
เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD – Attention Deficit Hyperactivity Disorder) จะมีอาการวอกแวก ไม่อยู่นิ่ง ขาดความรับผิดชอบ ไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ ขาดประสิทธิภาพในการเรียนและการใช้ชีวิตในอนาคต การฝึกทักษะ EF หรือ Executive Functions จึงมีความสำคัญในการช่วยพัฒนาทักษะการบริหารจัดการตนเองอย่างรอบด้าน ช่วยพัฒนาสมองส่วนหน้าที่ควบคุมสมาธิและการยับยั้งชั่งใจให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากพ่อแม่ผู้ปกครอง แพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญในสาขาต่าง ๆ และตัวเด็กเพื่อพัฒนาให้สมาธิดีขึ้นและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลกรุงเทพให้ความสำคัญกับพัฒนาการเด็กจึงจัด Smart Kids Express Program ในรูปแบบกลุ่ม มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะสมอง EF หรือ Executive Functions ทักษะการบริหารการจัดการตนเองขั้นสูงในเด็กที่มีอายุระหว่าง 4 – 6 ปี ฝึกกระบวนการความคิด วางแผน ลงมือทำ เพื่อเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ โดยคลินิกพัฒนาการเด็กมีความพร้อมในทุกสหสาขาวิชาชีพ ทั้งกุมารแพทย์ผู้ชำนาญการ พยาบาลผู้ชำนาญ นักกิจกรรมบำบัด นักจิตวิทยา และนักแก้ไขการพูด ซึ่งใช้การเล่นบำบัดเพื่อพัฒนาร่างกายและจิตใจให้แก่เด็กเพื่อความสำเร็จในทุกช่วงวัย