รถเข็นจ่ายยาเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดูแลผู้ป่วยใน ทั้งการนำจ่ายยาแก่ผู้ป่วยที่ห้องพักตามเวลาที่กำหนดในแต่ละวัน รวมถึงการทำหัตถการต่าง ๆ ดังนั้นการเลือกรถเข็นที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้บริการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่โรงพยาบาลชั้นนำในเครือ BDMS หรือ กรุงเทพดุสิตเวชการ ให้ความสำคัญไม่แพ้อุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทอื่น ๆ
พัฒนานวัตกรรมรถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะ
รถเข็นจ่ายยาที่ใช้กันโดยทั่วไปมีทั้งการประยุกต์ใช้รถเข็นโลหะธรรมดาที่ไม่มีฟังก์ชันเฉพาะเจาะจงและแบบที่มีลิ้นชักเก็บยาโดยเฉพาะ ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อพิจารณารถเข็นแต่ละประเภทที่มีในท้องตลาดก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ครบถ้วน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมรถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะของเครือ BDMS และธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ซึ่งร่วมพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ด้วยกันมาแล้ว จากความชำนาญทั้งการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ พร้อมพันธมิตรที่นำเสนอโซลูชันอย่างครบถ้วน
บริหารการจ่ายยาอย่างเป็นระบบ
BDMS มีแนวคิดปรับการบริหารจัดการการจ่ายยาให้เป็นระบบปิด หรือ Close – Loop Medication ให้ได้มากที่สุด เมื่อแพทย์สั่งยาผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจะส่งตรงไปยังรถเข็นจ่ายยาทันทีเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทีมงานเอสซีจีได้เข้าไปศึกษาวิธีการทำงานจริงของทั้งทีมแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งานรถจ่ายยาทั้งทางตรงและทางอ้อม เมื่อทราบข้อมูลความต้องการครบถ้วน เอสซีจีจึงออกแบบรถเข็นให้มีลิ้นชักจ่ายยาจำนวน 6 ลิ้นชัก ตรงตามจำนวนห้องของผู้ป่วยที่พยาบาลแต่ละท่านดูแลรับผิดชอบ โดยมีระบบล็อคลิ้นชักที่ต้องสแกนข้อมูลเลขผู้ป่วยเพื่อยืนยันตัวตนก่อน และปลดล็อคได้เฉพาะลิ้นชักที่กำหนดไว้สำหรับผู้ป่วยท่านนั้นโดยเฉพาะเพื่อความถูกต้องในการจ่ายยา
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พยาบาลเองต้องล็อกอินเพื่อยืนยันตัวตนก่อนการใช้งานทุกครั้ง เพื่อให้ตรวจสอบหรือบันทึกประวัติการทำงานได้เป็นระบบ ลิ้นชักทั้งหมดจะล็อคอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่เปิดใช้งานได้ครั้งละ 1 ลิ้นชักเท่านั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาด สับสน โดยจะต้องสแกนรหัสผู้ป่วยเพื่อปลดล็อคทุกครั้งเมื่อต้องการบรรจุยาจากห้องยาเข้าลิ้นชัก และเมื่อต้องการนำยาออกมาเมื่อถึงห้องผู้ป่วย อีกทั้งมีหน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงผลเพื่อช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของยาอีกครั้งก่อนจ่ายยาแก่ผู้ป่วย
สะดวกสบายทุกการใช้งาน
เมื่อออกแบบฟังก์ชันหลักของรถเข็นให้เหมาะกับการใช้งานแล้ว การออกแบบต้องช่วยอำนวยความสะดวกแก่บุคลากรผู้ใช้งานได้ดีด้วย ทีมงานเอสซีจีจึงออกแบบที่จับ ล้อเลื่อนพร้อมตัวล็อค และขนาดของรถเข็นให้มีน้ำหนักเหมาะสม ใช้งานได้สะดวกสบาย รวมถึงออกแบบขนาดลิ้นชักให้ความสูงเหมาะสมกับการเก็บขวดยาน้ำในแนวตั้ง ป้องกันการเกิดคราบที่คอขวดและการหกเลอะเทอะจากการเก็บขวดยาในแนวนอนที่เคยเป็นข้อจำกัดของรถเข็นรูปแบบเดิม ๆ และจากการศึกษาการทำงานจริงของพยาบาล ทีมงานเอสซีจีได้ออกแบบช่องใส่อุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ ให้เป็นสัดส่วนชัดเจน เช่น ช่องใส่พลาสเตอร์ เข็มฉีดยา ที่แขวนถังทิ้งเข็มฉีดยา ที่แขวนถุงน้ำเกลือ พื้นที่เก็บเอกสาร พื้นที่สำหรับวางถาดอาหารเหลว เป็นต้น
เทคโนโลยีดิจิทัลเชื่อมต่อการทำงานครบในที่เดียว
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของนวัตกรรมนี้คือ การเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดด้วยระบบดิจิทัล เพราะสิ่งที่ทำให้รถเข็นจ่ายยาธรรมดากลายเป็นรถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะก็คือ “ข้อมูล” โดยเพิ่มกระบวนการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทางกายภาพที่จับต้องได้กับข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้รับความร่วมมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์จากทีม Digital ของธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ทีมงานได้รับโจทย์ความต้องการจากโรงพยาบาลและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เพื่อเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลที่มีอยู่เดิมของโรงพยาบาล เพิ่มความถูกต้องในการจ่ายยา ลดความผิดพลาดจากคน (Human Error) และทำให้มีระบบตรวจสอบที่ดีขึ้น เนื่องจากทุกกิจกรรมถูกบันทึกไว้ในระบบ สามารถเก็บข้อมูลเพื่อนำไปประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้รถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะยังใช้ระบบเซนเซอร์สำหรับตรวจสอบสถานะการเปิด – ปิดของลิ้นชัก รวมถึงวัดค่าอุณหภูมิและความชื้นภายในลิ้นชักเก็บยาเพื่อตรวจสอบการเก็บรักษายาให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมตามมาตรฐาน JCI สร้างความมั่นใจเรื่องคุณภาพยาให้กับผู้ป่วย ในอนาคตอุปกรณ์ที่มีการทำงานเชื่อมต่อระหว่างสิ่งของในทางกายภาพกับข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ปัจจุบันรถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะได้นำไปใช้งานจริงแล้วที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย และ BDMS ได้ขยายผลการใช้งานไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ ในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไทและโรงพยาบาลเปาโล ซึ่งก็ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของรถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 8 ลิ้นชักเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของทั้งสองโรงพยาบาล นับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างแท้จริง