การดูแลทารกเกิดก่อนกำหนด
การดูแลทารกเกิดก่อนกำหนดต้องอาศัยทีมแพทย์พยาบาลที่มีความชำนาญทางด้านทารกแรกเกิดโดยเฉพาะ เนื่องจากทารกเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเล็กน้ำหนักน้อยเท่านั้น แต่อวัยวะต่าง ๆ ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์จึงไม่สามารถทำงานได้ดีเหมือนทารกครบกำหนด ดังนั้นผู้ดูแลจะต้องเข้าใจถึงปัญหาที่จะตามมา ยิ่งทารกเกิดก่อนกำหนดมากเท่าไหร่ก็จะพบปัญหาได้มากขึ้น
ปัญหาทารกเกิดก่อนกำหนด
- การหายใจ
ปัญหาสำคัญอันดับแรกของทารกเกิดก่อนกำหนดคือ การหายใจ เนื่องจากปอดของทารกก่อนกำหนดจะขยายตัวไม่ดี เพราะขาดสารลดแรงตึงผิว ซึ่งเคลือบอยู่ในถุงลม ทำให้ถุงลมแฟบ การแลกเปลี่ยนก๊าซไม่ดีไม่สามารถนำออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดได้ เกิดภาวะการขาดออกซิเจนตามมา ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ โดยเฉพาะสมอง
ดังนั้นทารกเหล่านี้จะได้รับการดูแลโดยแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางตั้งแต่แรกคลอด ก่อนที่ทารกเหล่านี้จะคลอดจะต้องมีการเตรียมเครื่องมือต่าง ๆ ให้พร้อม ทั้งเครื่องให้ความอบอุ่น เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ช่วยกู้ชีพต่าง ๆ เมื่อทารกคลอดออกมาจะต้องให้ความอบอุ่นแก่ทารกทันที เนื่องจากทารกก่อนกำหนดจะมีผิวหนังบาง ไขมันน้อย จึงสูญเสียความร้อนได้ง่าย ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ทารกจะตัวเย็นอุณหภูมิต่ำ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกหลายอย่าง จากนั้นจะต้องประเมินการหายใจของทารก ถ้าทารกหายใจไม่เพียงพอก็จะต้องช่วยหายใจทันทีเพื่อให้ปอดขยายตัวให้อากาศเข้าสู่ปอด หลังจากนั้นทารกไม่สามารถหายใจเองได้เพียงพอก็จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ บางรายอาจจำเป็นต้องให้สารลดแรงตึงผิวพ่นเข้าสู่ปอดเพื่อช่วยให้ปอดขยายตัวให้ดีขึ้น
- สมอง
อวัยวะที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะมีผลถึงการพัฒนาการของทารกในระยะยาว ได้แก่ สมอง สมองของทารกเกิดก่อนกำหนดค่อนข้างเปราะบาง เส้นเลือดในสมองเปราะบางแตกง่าย โดยเฉพาะทารกที่น้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า 1,500 กรัม การดูแลทารกเหล่านี้จะต้องดูแลด้วยความนุ่มนวลรบกวนทารกให้น้อยที่สุด ติดตามดูสัญญาณชีพและออกซิเจนโดยใช้เครื่องมอนิเตอร์ติดตามตลอดเวลา พยายามรักษาระดับให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทารกเหล่านี้จะต้องได้รับการตรวจอัลตราซาวนด์สมองเพื่อดูว่ามีเลือดออกในโพรงสมองหรือไม่
- สารอาหาร
อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญ คือ ทำอย่างไรให้ทารกได้รับสารอาหารที่เพียงพอเพื่อการเจริญเติบโตของทารก กระเพาะลำไส้ของทารกก่อนกำหนดยังไม่สามารถย่อยและดูดซึมน้ำนมได้ดีเท่าทารกครบกำหนด การให้นมแก่ทารกก่อนกำหนดต้องให้ด้วยความระมัดระวัง ให้ครั้งละน้อย ๆ ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ถ้าให้เร็วเกินไปจะเกิดลำไส้เน่าได้ ในระยะแรกอาจต้องให้สารอาหารทางหลอดเลือดร่วมด้วย คุณแม่อาจช่วยได้โดยการป้อมนมแม่มาให้ทารก เพราะนมแม่จะย่อยง่ายและยังมีภูมิคุ้มกันการติดเชื้ออีกด้วย ซึ่งมีประโยชน์มาก เพราะทารกเกิดก่อนกำหนดมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายและถ้ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นมักจะรุนแรง จึงต้องเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อโดยการล้างมือก่อนและหลังสัมผัสทารกทุกครั้ง
- สายตา
ทารกเกิดก่อนกำหนดอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาตามมาได้เพราะจอประสาทตายังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ดังนั้นจะต้องได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์
โดยทั่วไปทารกก่อนกำหนดจะต้องอยู่ในตู้อบเพื่อปรับอุณหภูมิจนกระทั่งน้ำหนักประมาณ 1,800 กรัม จึงออกมาอยู่ข้างนอกในอุณหภูมิห้องปกติได้ และจะกลับบ้านได้เมื่อน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ซึ่งจะใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับอายุครรภ์และน้ำหนักแรกเกิดดของทารก ตลอดจนปัญหาที่เกิดตามมาหลังคลอด โดยก่อนกลับบ้านทารกจะได้รับการตรวจการได้ยินด้วยทุกราย
สำหรับปัญหาในระยะยาวเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมองของทารกนั้นจะต้องติดตามดูเป็นระยะ ๆ ร่วมกับแพทย์ผู้ชำนาญการทางด้านพัฒนาการเด็ก ซึ่งจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการกระตุ้นและสงเสริมพัฒนาการแก่คุณแม่ด้วย
การดูแลทารกเกิดก่อนกำหนดนั้นไม่ใช่แค่รักษาให้ทารกรอดชีวิตเท่านั้น แต่จะต้องทำให้ทารกมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีใกล้เคียงปกติมากที่สุด ไม่เป็นภาระต่อครอบครังและสังคม ซึ่งจะต้องมีทีมที่พร้อมจะให้การดูแลทารกเหล่านี้ตั้งแต่แรกเกิดทันทีที่ออกจากครรภ์คุณแม่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา