สำหรับผู้ป่วยเบาหวานการตรวจเช็กระดับน้ำตาลในเลือดและควบคุมให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น ต่ำมากหรือสูงมาก สำคัญมาก CGM จึงเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานติดตามระดับน้ำตาลในเลือดแบบเรียลไทม์ผ่านสมาร์ทโฟนได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลาต่อเนื่อง 7 วัน โดยแพทย์จะ ได้รายละเอียดของข้อมูลที่ครบถ้วนกว่าเพื่อวินิจฉัยและให้คำแนะนำ รักษาจากระดับน้ำตาลและป้องกันโรคแทรกซ้อนตามความรุนแรงของโรคในและเหมาะสมของแต่ละบุคคล
CGM คืออะไร
CGM (Continuous Glucose Monitoring) คือ เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดที่สามารถแสดงผลแบบเรียลไทม์ได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง อย่างต่อเนื่อง 7 วัน โดยจะมีเซ็นเซอร์ติดบริเวณแขนหรือหน้าท้องตามคำแนะนำของแพทย์เป็นตัวส่งสัญญาณข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันในมือถือและเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ป่วยเช็กระดับน้ำตาลในเลือดได้ทุกที่ทุกเวลา หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อให้เตรียมตัวรับมือได้อย่างทันท่วงที ที่สำคัญทีมแพทย์จะตั้งค่าเครื่องให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละบุคคลเพื่อติดตามข้อมูลเชิงลึกและวางแผนการรักษาป้องกัน การเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างเหมาะสม และที่สำคัญยังสามารถทำนายค่าผิดปกติที่จะเกิดขึ้นให้ได้ในอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งตัวเลขค่าน้ำตาลของ CGM ปัจจุบันได้รับความนิยม การยอมรับ และสามารถยืนยันผลเพื่อทำการรักษาได้จาก American Diabetes Association (ADA) จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ผู้ที่เหมาะกับการใช้งาน CGM คือใคร
- ผู้ป่วยเบาหวาน
- ผู้ป่วยโรคอ้วน
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- ผู้หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงนิสัยการทานอาหารและป้องกันเบาหวาน
ข้อดีของ CGM คืออะไร
- ไม่ต้องเจาะปลายนิ้วเพื่อเช็กระดับน้ำตาลในเลือด
- อ่านค่าระดับน้ำตาลในเลือดตามเวลาจริงทุก ๆ 5 นาที
- ผู้ป่วยเช็กค่าระดับน้ำตาลในเลือดผ่านมือถือได้ทุกเวลาที่สะดวก
- แพทย์สามารถตรวจสอบข้อมูลและเข้าถึงรายงานระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
- บันทึกข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประเมินว่าส่งผลต่อแนวโน้มระดับน้ำตาลในเลือดมากแค่ไหน
- ผู้ป่วยกำหนดและปรับแต่งรูปแบบการแจ้งเตือนระดับน้ำตาลในเลือดได้ตามความต้องการ
CGM มีข้อจำกัดอย่างไร
เซ็นเซอร์ของ CGM จะต้องทำการเปลี่ยนทุก 7 วัน เนื่องจากการทำกิจกรรมในแต่ละวันอาจมีเหงื่อออก ทำให้เกิดการแพ้บริเวณผิวหนังได้ เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดควรเปลี่ยนตามคำแนะนำของแพทย์ นอกจากนี้ในขณะเคลื่อนไหวอาจรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย แต่สามารถอาบน้ำและออกกำลังกายได้ตามปกติ
ความแตกต่างระหว่าง CGM และ SMBG คืออะไร
SMBG (Self – Monitoring of Blood Glucose) เป็นการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง โดยใช้การเจาะที่ปลายนิ้ว แม้ไม่ต้องเสียเลือดมากเท่าการไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาล แต่เมื่อเจาะเลือดบ่อย ๆ ย่อมทำให้รู้สึกเจ็บและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับ CGM (Continuous Glucose Monitoring) เป็นเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดที่เพียงติดเซ็นเซอร์ไว้ที่แขนหรือหน้าท้องก็สามารถแสดงผลระดับน้ำตาลในเลือดได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงไม่จำเป็นต้องเจาะเลือดให้รู้สึกเจ็บ และค่าที่แสดงผลได้รับการรับรองและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นำไปต่อยอดการรักษาได้ทันที
CGM จำเป็นอย่างไร
หากผู้ป่วยเบาหวานเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปจนเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต CGM จะช่วยเตือนล่วงหน้าเพื่อให้ผู้ป่วยและทีมแพทย์รับรู้และรีบดำเนินการดูแลรักษาโดยเร็วที่สุด