โรคลมพิษแม้ไม่อันตรายถึงชีวิตแต่ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะโรคลมพิษเรื้อรังที่สร้างความรำคาญจากอาการคันต่อเนื่องในระยะยาว จนรบกวนคุณภาพชีวิตตลอดจนการนอน การรักษาโดยเร็วและมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้นโดยเร็ว
รู้จักลมพิษเรื้อรัง
โรคลมพิษเรื้อรัง (Chronic Urticaria) จะมีอาการผื่นลมพิษแบบเป็น ๆ หาย ๆ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเป็นต่อเนื่องนานเกิน 6 สัปดาห์ขึ้นไป หากผื่นอยู่นานอาจทิ้งรอยดำและมีจุดเลือดออกในผื่นได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความไม่สบายตัว รำคาญใจ เสียบุคลิกภาพและความมั่นใจ อาจนำไปสู่ปัญหาการนอนไม่หลับได้ แม้จะไม่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่การปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลเสียในระยะยาว
ตัวการลมพิษเรื้อรัง
ลมพิษเรื้อรังมีปัจจัยที่กระตุ้นให้โรคกำเริบมากมาย ได้แก่
- อาหาร เช่น อาหารทะเล สารกันบูด ของหมักดอง ฯลฯ
- การติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ฯลฯ
- ยาบางชนิดที่ร่างกายเกิดการแพ้
- โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ ทั้งไฮเปอร์ไทรอยด์และไฮโปไทรอยด์ ฯลฯ
- การแพ้สารสัมผัส เช่น ขนสัตว์ ถุงมือยาง ไรฝุ่น พิษแมลง ฯลฯ
- การกระตุ้นทางกายภาพ เช่น ความร้อน ความเย็น แสงแดด ฯลฯ
- เนื้องอกและมะเร็งอวัยวะต่าง ๆ
- โรคอื่น ๆ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคเส้นเลือดอักเสบ ฯลฯ
อาการลมพิษเรื้อรัง
ผื่นลมพิษเรื้อรังมีขนาดตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่มีลักษณะปื้นนูนแดงคันไม่มีขุยขอบเขตชัดเจนผื่นกระจายอย่างรวดเร็วมีทั้งวงกลมรีวงแหวนทั้งแขนขาใบหน้ารอบดวงตาปากผู้ป่วยบางคนอาจปากบวมและตาบวมร่วมด้วยนอกจากนี้ความเครียดมีผลกับการเห่อของโรคได้
ตรวจวินิจฉัยลมพิษเรื้อรัง
- ซักประวัติเกี่ยวกับผื่น ระยะเวลาเกิดผื่น ปัจจัยกระตุ้นผื่น
- ตรวจร่างกายอย่างละเอียด พิจารณาลักษณะผื่น
- ตรวจเลือด
- ตรวจทางห้องปฏิบัติการตามคำแนะนำของแพทย์
รักษาลมพิษเรื้อรัง
การรักษาลมพิษเรื้อรังเป็นไปตามสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นเป็นสำคัญเพื่อลดผื่นที่เกิดขึ้น โดยเป็นการรักษาด้วยยา ได้แก่
- ยาต้านฮิสตามีนหรือยาแก้แพ้ ช่วยรักษาและควบคุมอาการของโรค มีให้เลือกมากมายหลายชนิดและมีผลข้างเคียงแตกต่างกัน รวมถึงผู้ป่วยต้องมีการปรับยาเป็นระยะ จึงจำเป็นต้องพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ได้รับยาที่เหมาะสมในระยะยาว และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ยาในกลุ่มอื่น ๆ ในกรณีที่ผู้ป่วยลมพิษเรื้อรังมีอาการหนัก ได้รับยาฮีสตามีนแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะทำการพิจารณาให้ยากลุ่มอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อยับยั้งการสร้างและหลั่งสารที่กระตุ้นให้เกิดลมพิษ เพื่อให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นโดยเร็วที่สุด
ดูแลให้ถูกวิธีเมื่อป่วยลมพิษเรื้อรัง
- เลี่ยงสาเหตุและปัจจัยที่กระตุ้นให้ผื่นลมพิษกำเริบ
- กินยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หากกินยาแล้วมีอาการง่วงซึมจนกระทบการทำงานและการใช้ชีวิตควรแจ้งแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยา
- ห้ามหยุดกินยาด้วยตัวเองต้องแพทย์สั่งเท่านั้น
- ไม่แกะเกาที่ผิวหนัง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก
- ทำใจให้สบายไม่เครียด
ลมพิษเรื้อรังอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนานกว่าจะควบคุมโรคได้ ผู้ป่วยจึงควรมีวินัยในการกินยาและพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง ที่สำคัญดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ