อยากทำเลสิกต้องเลือกแบบไหน

5 นาทีในการอ่าน
อยากทำเลสิกต้องเลือกแบบไหน

เลสิกเป็นเทคโนโลยีการแก้ปัญหาสายตาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่การจะเลือกทำเลสิกแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาสายตาควรต้องปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการและมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะข้อดีข้อเสีย ของการทำเลสิกแต่ละประเภทแตกต่างกัน

 

เลสิกคืออะไร

เลสิก (Lasik) คือ การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์แก้ไขปัญหาภาวะสายตาผิดปกติอย่างถาวร ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ โดยมีให้เลือกหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับลักษณะสายตา สภาพดวงตา โรคร่วมต่าง ๆ และช่วงอายุ สิ่งสำคัญคือการเลือกทำเลสิกให้เหมาะกับดวงตาของคุณ

 

ทำเลสิกแก้ปัญหาภาวะสายตาผิดปกติใดบ้าง

การทำเลสิกสามารถแก้ไขปัญหาภาวะสายตาผิดปกติดังต่อไปนี้

  1. สายตาสั้น (Near-sightedness หรือ Myopia) จากการที่กระจกตาโค้งเกินไปหรือขนาดลูกตายาวเกินไป ทำทำให้แสงโฟกัสก่อนถึงจอประสาทตาส่งผลให้เห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ชัดเจน เห็นวัตถุที่อยู่ไกลไม่ชัดเจน
  2. สายตายาวโดยกำเนิด (Far-sightedness หรือ Hyperopia) จากการที่กระจกตาแบนเกินไปหรือขนาดลูกตาสั้นเกินไป ทำให้แสงโฟกัสเลยจอประสาทตาส่งผลให้เห็นวัตถุทั้งใกล้และไกลไม่ชัดเจน
  3. สายตาเอียง (Astigmatism) จากการที่กระจกตาไม่กลม ทำให้แสงแต่ละระนาบไม่สามารถโฟกัสที่จุดเดียวกัน และมักเป็นร่วมกับสายตาสั้นหรือยาวโดยกำเนิด ส่งผลให้เห็นภาพซ้อน
  4. สายตายาวตามอายุ (Presbyopia) จากความเสื่อมของกล้ามเนื้อตาเมื่ออายุเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ทำให้เพ่งมองระยะใกล้ได้ไม่ดี มีปัญหาการมองใกล้เท่านั้น ยิ่งอายุมากขึ้นสายตาจะยิ่งยาวเพิ่มขึ้นตามอายุ

 

เทคโนโลยีการทำเลสิกมีกี่แบบ

เทคโนโลยีการทำเลสิกเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติมี 6 แบบและมีขั้นตอนการทำเลสิกที่แตกต่างกัน ได้แก่

1) PRK (Photorefractive Keratectomy)
เป็นการรักษาสายตาผิดปกติด้วยเทคโนโลยี Excimer Laser ที่เข้าไปปรับผิวกระจกตาโดยตรง ไม่ต้องแยกชั้นกระจกตา เมื่อปรับความโค้งแล้วจะทำการใส่คอนแทคเลนส์เพื่อคลุมแผลบนผิวกระจกตารอการสมานแผลผิวด้านบนกระจกตาให้กลับมาปกติ ใช้เวลารักษาประมาณ 20 – 30 นาที และต้องพักฟื้นประมาณ 3 – 5 วัน
  • ข้อดี:
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวแต่กำเนิด
    •  ไม่ต้องมีฝากระจกตา
    • เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่มีการปะทะได้
  •  ข้อจำกัด:
    • แผลค่อนข้างหายช้า อาจมีแผลเป็นและต้องหยอดยาสเตียรอยด์ประมาณ 1 – 3 เดือน
    • หากดูแลไม่ดีมีโอกาสติดเชื้อบริเวณผิวกระจกตา
    • หลังผ่าตัดรู้สึกแสบระคายเคืองตาประมาณ 3 – 4 วัน

2) LASIK (Laser In-Situ Keratomileusis)
เลสิก (Lasik) เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติ โดยใช้ใบมีดตัดเปิดฝากระจกตาก่อนใช้เทคโนโลยี Excimer Laser ยิงเพื่อปรับค่าสายตา แล้วจึงปิดฝากระจกตา ใช้เวลารักษาประมาณ 30 นาที พักฟื้นประมาณ 1 วัน

  • ข้อดี:
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวแต่กำเนิด
    • ระคายเคืองตาไม่มากหลังผ่าตัด
    • กลับมามองเห็นชัดเจนรวดเร็ว
  • ข้อจำกัด:
    • ความแม่นยำของความหนาของกระจกตาที่ถูกแยกด้วยใบมีดไม่แน่นอน ไม่เหมาะกับผู้ที่กระจกตาบาง
    • ผิวกระจกตาอาจเกิดการถลอก ฝากระจกตาอาจเกิดรอยย่น
    • การแยกชั้นกระจกตาอาจเกิดความคลาดเคลื่อน


3) FemtoLASIK
FemtoLASIK เป็นการทำเลสิกไร้ใบมีด เป็นการใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอนโดยใช้เทคโนโลยีการแยกชั้นกระจกตาด้วยแสงเลเซอร์ ทำการยิง Femtosecond Laser เพื่อแยกชั้นเปิดฝากระจกตา ก่อนยิง Excimer Laser เพื่อปรับค่าสายตาและปิดฝากระจกตา ใช้เวลารักษาประมาณ 30 นาที พักฟื้นประมาณ 1 วัน

  • ข้อดี:
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวแต่กำเนิด
    • กระจกตาสมานตัวเร็ว แผลหายเร็ว ลดความเสี่ยงผิวกระจกตาถลอก
    • ลดความคลาดเคลื่อนของการแยกชั้นกระจกตาด้วยมีด
  • ข้อจำกัด:
    • ในช่วงเดือนแรกห้ามขยี้ตาหรือทำกิจกรรมที่เกิดการกระแทก เพราะอาจทำให้ฝากระจกตาเกิดรอยย่นได้

 

4) FemtoLASIK PRESBYOND
FemtoLASIK PRESBYOND เป็นการทำเลสิกไร้ใบมีด ใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน สำหรับแก้ปัญหาสายตายาวตามอายุ โดยใช้เทคโนโลยี Femtosecond Laser แยกชั้นเปิดฝากระจกตา ก่อนยิง Excimer Laser เพื่อปรับค่าสายตาด้วยโปรแกรม PRESBYOND ซึ่งปรับโค้งกระจกตาให้มองใกล้ได้ และปิดฝากระจกตา ใช้เวลารักษาประมาณ 30 นาที พักฟื้นประมาณ 1 วัน

  • ข้อดี:
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวแต่กำเนิด สายตายาวตามอายุ
    • มองชัดทั้งระยะใกล้ กลาง และไกลพร้อมกัน โดยไม่ต้องสวมแว่นสายตา
    • กระจกตาสมานตัวเร็ว
  • ข้อจำกัด:
    • ประสิทธิภาพการมองระยะใกล้ 7 – 8 ปี ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตาในแต่ละคน
    • เนื่องจากมีการปรับโค้งกระจกตาให้มองทั้งไกลและใกล้ได้ อาจทำให้มองไกลไม่ได้ชัดที่สุด จะมีการลองเลนส์ทดสอบให้ดูขณะตรวจประเมินสภาพตาว่าจะมองชัดได้แค่ไหน
    • ในช่วงเดือนแรกห้ามขยี้ตาหรือทำกิจกรรมที่เกิดการกระแทก เพราะอาจทำให้ฝากระจกตาเกิดรอยย่นได้



5) ReLEx SMILE
ReLEx SMILE เป็นการทำเลสิกไร้ใบมีดแบบแผลเล็ก โดยใช้เทคโนโลยี Femtosecond Laser แยกชั้นกระจกตา และปรับโค้งกระจกตาตามค่าสายตาในคราวเดียวกัน แล้วจึงนำเนื้อกระจกตาส่วนเกินออกผ่านช่องขนาดเล็ก ปรับเปลี่ยนความโค้งกระจกตา โดยไม่มีการเปิดฝากระจกตา แผลมีขนาดเล็กกว่าการทำเลสิกวิธีอื่น ใช้เวลารักษาประมาณ 20 นาที พักฟื้นประมาณ 1 วัน

  • ข้อดี:
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง
    • แผลหายเร็ว ระคายเคืองน้อยมาก
    • กระจกตาแข็งแรง ตาแห้งน้อยลง
    • ไม่มีการเปิดฝากระจกตาจึงไม่มีปัญหาฝาขยับหรือรอยย่น
    • ลดปัญหาการมองเห็นในที่แสงน้อย
    • ลดโอกาสเกิดภาวะถดถอยของสายตาหลังผ่าตัด
  • ข้อจำกัด:
    • ไม่สามารถแก้ปัญหาสายตายาวได้
    • ในช่วงสัปดาห์แรกอาจเห็นภาพเป็นหมอกได้เล็กน้อย จากนั้นจะดีขึ้นใน 1 – 2 สัปดาห์

6) ICL (Implantable Collamer Lens)
ICL (Implantable Collamer Lens) เป็นเทคโนโลยีเลนส์เสริมสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาผิดปกติมาก มีกระจกตาบางและตาแห้งมาก ไม่อยากให้กระจกตาบางหรือแห้งจากการทำเลสิก โดยจะเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 3 มิลลิเมตร
ด้านข้างกระจกตาแล้วใส่เลนส์เสริมที่ใช้วัสดุ Collamer ที่มีคุณสมบัติพับม้วนได้ นิ่ม ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น เข้าไปบริเวณหลังม่านตา อยู่ด้านหน้าเลนส์แก้วตา ใช้เวลารักษาประมาณ 20 – 30 นาที พักฟื้นประมาณ 1 วัน

  • ข้อดี:
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาวแต่กำเนิด
    • ไม่ทำลายเนื้อเยื่อกระจกตาไ ม่ทำให้กระจกตาบางลง
    • ไม่ทำให้ตาแห้งหรืออักเสบ
    • มองเห็นชัดเจน ลดแสงแตกกระจาย
    • ถอดเลนส์เสริมได้เมื่อต้องการ 
  • ข้อจำกัด:
    • ในช่วงเดือนแรกอาจสังเกตเห็นเงาสะท้อนขอบเลนส์เป็นเงาวงกลมได้ในบางเวลา เงานี้จะหายไปเองใน 2 – 3  เดือน
    • ห้ามน้ำเข้าตา 2 สัปดาห์
    • ระวังการเล่นกีฬาที่มีโอกาสกระแทกสูง อย่างชกมวย เทควันโด



เตรียมตัวก่อนทำเลสิกอย่างไร

การเตรียมตัวก่อนทำเลสิก ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ก่อนผ่าตัด ในวันที่ผ่าตัดควรล้างหน้า สระผม และห้ามแต่งหน้า โดยเลือกเสื้อผ้าที่ติดกระดุมหน้าเพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนในวันที่ผ่าตัด ห้ามใช้น้ำหอมหรือสเปรย์ดับกลิ่นทุกชนิด งดดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้หากมียาที่รับประทานเป็นประจำควรแจ้งจักษุแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าต้องหยุดยาหรือไม่ และในวันที่ผ่าตัดไม่ควรขับรถเอง ควรมีผู้ติดตามมาด้วยเพื่อความสะดวกและปลอดภัย

 

ข้อห้ามหลังทำเลสิกคืออะไร

ข้อห้ามหลังทำเลสิก คือ ห้ามขยี้ตา ห้ามล้างหน้า ห้ามไม่ให้น้ำเข้าตาเด็ดขาด หากรู้สึกคันให้ล้างมือให้สะอาดและใช้นิ้วชี้แตะเบา ๆ ที่หัวตาหรือหางตา ห้ามว่ายน้ำ ห้ามดำน้ำ งดแต่งหน้ารอบดวงตา ที่สำคัญควรหยอดยาตามที่จักษุแพทย์สั่ง ใส่ฝาครอบตาก่อนนอนจนครบ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว หากต้องใช้สายตาควรพักสายตาเป็นระยะ

 

สายตาสั้นเท่าไหร่เลสิกไม่ได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลสิกคือ สายตาสั้นเท่าไหร่เลสิกไม่ได้ จักษุแพทย์แนะนำว่าผู้ที่มีสายตาสั้นเกิน 1,400 ไม่ควรทำเลสิก ทั้งนี้แนะนำให้ตรวจสายตาอย่างละเอียดกับจักษุแพทย์ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการทำเลสิกแบบต่าง ๆเพราะอาจพบปัญหาสายตาที่เป็นข้อจำกัดในการทำเลสิกได้ เช่น กระจกตาบางหรือหนาเกินไป เป็นต้น

 

โรงพยาบาลที่ชำนาญการทำเลสิกที่ไหนดี

ศูนย์เลสิก โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมด้วยเครื่องมือเลสิกและเทคโนโลยีทันสมัย จักษุแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางและมากด้วยประสบการณ์ มั่นใจในทุกการแก้ปัญหาความผิดปกติของสายตา ทั้งสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาว และสายตายาวแต่กำเนิด มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญพร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาด้วยความใส่ใจ คลายทุกความกังวลให้คุณเมื่อทำเลสิกที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

 

แพทย์ที่ชำนาญการทำเลสิก

พญ.ฐิดานันท์ รัตนธรรม จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระจกตาและผ่าตัดแก้ไขสายตา โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้รับรางวัล ICL 1,000 ตา เมื่อปี 2024
สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง

 

แพ็กเกจการทำเลสิก

แพ็กเกจการทำเลสิกราคาเริ่มต้นที่ 62,000 บาท
ดูแพ็กเกจผ่าตัดต้อกระจกเพิ่ม คลิก

ข้อมูลโดย

Doctor Image
พญ. ฐิดานันท์ รัตนธรรม

จักษุวิทยา

พญ. ฐิดานันท์ รัตนธรรม

จักษุวิทยา

Doctor profileDoctor profile
Loading

กำลังโหลดข้อมูล

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์เลสิก

ชั้น 5 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ

จันทร์ - เสาร์ 08.00 - 17.00 น.

อาทิตย์ 08.00 - 16.00 น.

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ดูแพทย์ทั้งหมด