Q : ทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคอารมณ์แปรปรวน ?
A : สังเกตจากพื้นฐานพฤติกรรม เช่น ถ้าปกติเคยเป็นคนเรียบร้อย มีเหตุมีผล แล้วกลายเป็นคนแต่งตัวเปรี้ยว พูดเก่ง เกรี้ยวกราด หรือจากคนที่คุยเก่ง ชอบทำงาน ชอบสังคม กลายเป็นซึมเศร้า ไม่อยากลุกจากที่นอน นอนดูเพดานได้เป็นชั่วโมง ๆ เบื่อสังคม ขาดงานบ่อย ไม่ดูแลตัวเอง หรือป่วยไม่เจอสาเหตุ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าป่วย และพาไปพบแพทย์ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติ
Q : โรคอารมณ์แปรปรวนรักษาได้อย่างไร ?
A : แพทย์จะวินิจฉัยและให้รับประทานยา โดยทั่วไปการรับประทานยา ประมาณ 2 สัปดาห์จะช่วยให้อาการเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้อาการจะดีขึ้น แต่ก็หยุดยาไม่ได้ ต้องรักษาต่อเนื่อง 2 – 5 ปี แต่ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องครบถ้วน โรคนี้ก็สามารถรักษาหายได้”
Q : คนใกล้ชิดควรดูแลอย่างไร ?
คนใกล้ชิดควรเตรียมตัวและครอบครัวให้เข้มแข็ง หรือที่เรียกว่า วัคซีนใจ ด้วยการดูแลให้มีสุขภาพจิตที่ดี ศึกษาข้อมูล เรียนรู้ดูแลกัน และอย่ารีรอที่จะปรึกษาผู้ชำนาญการเพราะอาการของโรคนี้ต้องได้รับการรักษาด้วยยาและทำจิตบำบัดควบคู่กัน ซึ่งผู้ป่วยจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ เพียงแต่สังคมต้องให้โอกาส
สำหรับใครที่สนใจหรือสงสัยเกี่ยวกับเรื่องจิตเวช โรงพยาบาลกรุงเทพมีศูนย์จิตรักษ์ที่พร้อมให้การดูแลรักษาด้านสุขภาพจิตและจิตเวชที่ทันสมัย ครบวงจร พร้อมด้วยทีมแพทย์มืออาชีพที่ดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอนการรักษา มีห้องพักเป็นสัดส่วน สะดวกสบาย ร่มรื่น พร้อมให้ทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงมีโปรแกรมกิจกรรมหลากหลาย เหมาะกับอาการทางจิตใจในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดนตรีบำบัด ศิลปะบำบัด การทำจิตบำบัดรายกลุ่ม และรายบุคคล ซึ่งล้วนสร้างความเข้มแข็งให้กับจิตใจของผู้ป่วยรวมถึงญาติ ๆ จนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
คุณหมอเบิร์ทฝากทิ้งท้ายประเด็นสำคัญ 3 ประการ คือ
1. Bipolar เป็นการเจ็บป่วย ไม่ใช่นิสัยไม่ดี
2. Bipolar สามารถรักษาได้
3. รักษาแล้ว สามารถกลับเป็นคนดี คนเก่ง และกลับมาดำเนินชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขได้