ปัญหาเรื่องรูปร่างยังคงกวนใจคุณผู้หญิงเสมอมา โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น การสะสมไขมันย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะคนที่มีหน้าท้องเยอะ สะโพกหนา คุณแม่หลังคลอดที่มีน้ำหนักเกิน นอกจากการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายเป็นประจำ อีกหนึ่งตัวช่วยที่เรียกได้ว่าเป็นการขจัดไขมันอย่างเห็นผลคือ เทคนิคลดไขมันด้วยความเย็น ที่ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันแบบถาวร ให้ผลเทียบเท่าการผ่าตัด และสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทันที
รู้เรื่องเซลล์ไขมัน
เซลล์ไขมัน (Fat Cell) คือ เซลล์ที่พบมากในเนื้อเยื่อไขมัน มีหน้าที่เก็บพลังงานในรูปแบบไขมัน อยู่ตามบริเวณผิวหนังและรอบอวัยวะต่าง ๆ โดยมีหน้าที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย โดยเซลล์ไขมันจะแบ่งตัวจนประมาณอายุ 2 – 5 ขวบ แต่หลังจากนั้นเซลล์ไขมันจะทำการขยายขนาดแทน ดังนั้นเมื่อร่างกายมีไขมันส่วนเกิน เซลล์ไขมันจะมีจำนวนมากขึ้นและเซลล์ไขมันที่มีอยู่เดิมจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อเซลล์ไขมันเกิดการรวมตัวอย่างหนาแน่นจะเกิดการนูนขึ้นตามผิวหนังส่วนต่าง ๆ เป็นผิวเปลือกส้มที่เรียกว่า เซลลูไลท์ (Cellulite) ไขมันใต้ผิวหนังที่มักเกิดขึ้นบริเวณหน้าท้อง ต้นขา สะโพก และก้น
ลดน้ำหนักขจัดเซลล์ไขมัน
การลดน้ำหนักและกำจัดเซลล์ไขมันมีความแตกต่างกันตรงที่การลดน้ำหนัก เมื่อน้ำหนักลดลง เซลล์ไขมันจะมีขนาดเล็กลง แต่ยังคงอยู่ในจำนวนเท่าเดิม หากขาดการควบคุมน้ำหนักเซลล์ไขมันก็จะกลับมาโตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่สามารถกักเก็บต่อไปได้จะแบ่งตัวออกเป็นเซลล์ไขมันใหม่ โดยเฉพาะคนอ้วนจะมีเซลล์ไขมันปริมาณมากและขนาดใหญ่ ในขณะที่การขจัดเซลล์ไขมันถาวรมีทางเดียวคือต้องเอาเซลล์ไขมันออกจากร่างกายหรือทำให้เซลล์ไขมันตาย โดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยกำจัดไขมันโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อลดไขมันส่วนเกินในบริเวณต่าง ๆ ตามต้องการ
เทคนิคลดไขมันด้วยความเย็น ตัวช่วยกำจัดไขมัน
เทคนิคลดไขมันด้วยความเย็น คือ เทคโนโลยีสลายไขมันส่วนเกินด้วยการนำนวัตกรรมคลื่นความเย็นมาช่วยกำจัดไขมันออกจากร่างกาย โดยส่งผ่านความเย็นระดับจุดเยือกแข็ง 4 – 7 องศาเซลเซียสแบบคงที่ลงไปใต้ชั้นผิวหนังเข้าสู่ชั้นไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัวและสลายตัวเองแบบธรรมชาติในช่วง 3 วันแรก ก่อนที่จะถูกขจัดออกจากร่างกายทางระบบน้ำเหลืองแบบถาวรหลังจากนั้นภายใน 1 เดือน
จุดที่เน้น
- หน้าท้อง
- ต้นแขน
- ต้นขา
- สะโพก
- ก้น
- ปีกหลัง
- เหนียง
ขั้นตอนการรักษา
- ก่อนรักษา ตรวจประเมินร่างกายกับแพทย์เฉพาะทางและทีมงานผู้ชำนาญการเพื่อวางแผนและกำหนดจุดที่จะทำการรักษาอย่างครอบคลุม โดยสามารถวางแผนการรักษาซ้ำหลังรักษาครั้งแรกประมาณ 2 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
- เข้าสู่การรักษา ติดตั้งเครื่องมือในลักษณะแผ่นปล่อยความเย็นในบริเวณที่ต้องการ โดยจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ก่อนปล่อยคลื่นความเย็นไปใต้ชั้นผิวหนังอย่างต่อเนื่องประมาณ 30 – 35 นาทีต่อครั้ง ขณะทำในช่วง 5 – 10 นาทีแรกอาจเกิดความรู้สึกเย็น ตึง แสบปวดเพียงเล็กน้อย ก่อนจะกลายเป็นรู้สึกชา
- หลังการรักษา อาจมีอาการปวด แดง ตึง ร้อนวูบวาบ ช้ำ แสบ คัน เวียนศีรษะ คลื่นไส้ เหงื่อออก ซึ่งพบได้น้อยมาก โดยเซลล์ไขมันที่ถูกคลื่นความเย็นจะค่อย ๆ สลายตัวและถูกขับออกจากร่างกาย และเซลล์ไขมันจะเริ่มตายและเห็นผลค่อนข้างชัดเจนภายใน 3 สัปดาห์ แต่จะเห็นผลชัดเจนที่สุดในช่วงเดือนที่ 3 หลังการรักษา เพราะร่างกายขจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกจากชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้สัดส่วนดูกระชับและผิวเรียบเนียน
ข้อดีของเทคนิคลดไขมันด้วยความเย็น
- กำจัดไขมันแบบถาวร
- สัดส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- ไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นบริเวณข้างเคียง
- ไม่เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
- ไม่ต้องฉีดยาหรือใช้ยาชาเฉพาะจุด
- ไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น
- ไม่มีบาดแผล
ผู้ที่ไม่เหมาะกับเทคนิคลดไขมันด้วยความเย็น
- หญิงตั้งครรภ์
- หญิงที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่แพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
- ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่ติดอุปกรณ์ใด ๆ ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดในบริเวณที่จะทำการรักษา
นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลรูปร่างสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมและต้องการกำจัดไขมันเฉพาะส่วน ซึ่งสามารถรักษาร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ตามการประเมินของแพทย์เฉพาะทางเพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญควรเข้ารับบริการกับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจ นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นทานผักผลไม้ ออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมน้ำหนักให้เป็นไปตามเกณฑ์ เพื่อรักษารูปร่างให้ดูดีอยู่เสมอ