ท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อนเป็นอวัยวะสำคัญที่เมื่อเกิดความผิดปกติย่อมส่งผลกระทบกับร่างกาย ทำให้เกิดอาการผิดปกติและอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) จึงมีความสำคัญ เพราะช่วยค้นหาความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ภายในนำไปสู่การดูแลรักษาอย่างถูกต้อง
การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) คืออะไร
การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP : Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography) เป็นขั้นตอนพิเศษที่ใช้ในการวินิจฉัยและรักษาปัญหาเกี่ยวกับตับ, ถุงน้ำดี, ท่อน้ำดี และตับอ่อน โดยใช้การส่องกล้องและการเอกซเรย์ร่วมกันเพื่อตรวจดูพื้นที่เหล่านี้และทำการรักษา เช่น การเอานิ่วออกหรือการใส่ท่อ
ใครที่ต้องส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
ผู้ป่วยต้องการตรวจ ERCP ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้
- นิ่วในท่อน้ำดี: การวินิจฉัยและเอานิ่วในท่อน้ำดีออก
- การตีบของท่อน้ำดี: การประเมินและรักษาการตีบแคบในท่อน้ำดี ซึ่งอาจเป็นการตีบแบบธรรมดาหรือมะเร็ง
- สภาวะของท่อตับอ่อน: การตรวจสอบและรักษานิ่วหรือการตีบในท่อตับอ่อน
- สงสัยมะเร็งท่อน้ำดีหรือตับอ่อน: การตัดชิ้นเนื้อเพื่อวินิจฉัยมะเร็งในบริเวณเหล่านี้
- ดีซ่านที่ไม่ทราบสาเหตุ: การตรวจหาสาเหตุของดีซ่านเมื่อภาพการตรวจอื่นไม่ชัดเจน
- การติดเชื้อท่อน้ำดี: การจัดการการติดเชื้อในท่อน้ำดี
ข้อดีของการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
- วินิจฉัยถูกต้อง: ให้ภาพและข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับท่อน้ำดีและท่อตับอ่อน
- ความสามารถในการรักษา: สามารถรักษาได้ทันที เช่น การเอานิ่วออก การใส่ท่อ และการขยายการตีบ
- การรุกล้ำน้อย: เมื่อเทียบกับการผ่าตัด ERCP มีการรุกล้ำน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็วกว่า
- ความสามารถในการตัดชิ้นเนื้อ: สามารถตัดชิ้นเนื้อจากท่อน้ำดีและท่อตับอ่อนไปตรวจทางพยาธิวิทยา
เตรียมตัวก่อนส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) อย่างไร
- การอดอาหาร: ผู้ป่วยต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนการตรวจเพื่อให้ท้องว่าง
- การทบทวนยา: ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่กำลังรับประทานอยู่ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยารักษาโรคเบาหวาน และอาหารเสริมบางชนิดอาจต้องปรับหรือหยุดชั่วคราว
- ข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับอาการแพ้ใด ๆ โดยเฉพาะยาและยาชา
- การประเมินสุขภาพ: การประเมินก่อนการตรวจจะถูกดำเนินการเพื่อทบทวนประวัติทางการแพทย์และปฏิกิริยาที่เคยเกิดขึ้นกับยาระงับความรู้สึกหรือยาชา
- การให้ความยินยอม: ผู้ป่วยต้องให้ความยินยอมในการยอมรับขั้นตอ เพื่อประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ระหว่างการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) เป็นอย่างไร
- การให้ยาระงับความรู้สึก: ผู้ป่วยจะได้รับยาระงับความรู้สึกเพื่อให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย อาจเป็นการให้ยาระงับความรู้สึกที่ยังมีสติหรือการให้ยาชาทั่วไป
- การวางตำแหน่ง: จะถูกวางตำแหน่งให้นอนตะแคงซ้ายหรือนอนคว่ำ
- การใส่กล้องส่อง: แพทย์จะใส่กล้องส่องผ่านทางปากและค่อย ๆ ดันผ่านหลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร และเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น
- การใส่สายสวน: ใช้สายสวนขนาดเล็กเพื่อฉีดสารทึบแสงเข้าไปในท่อน้ำดีและท่อตับอ่อน
- การถ่ายภาพด้วยฟลูออโรสโคปี: ใช้ภาพเอกซเรย์เพื่อดูท่อและตรวจหาความผิดปกติ
- การรักษา: หากจำเป็นจะมีการทำหัตถการ เช่น การเอานิ่วออก, การใส่ท่อ หรือการตัดชิ้นเนื้อ
ดูแลหลังส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) อย่างไร
- เวลาฟื้นตัว: ผู้ป่วยจะถูกติดตามในบริเวณฟื้นฟูจนกว่ายาระงับความรู้สึกจะหมดฤทธิ์ ซึ่งปกติใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
- อาหาร: อาจเริ่มด้วยของเหลวใสและค่อย ๆ กลับไปทานอาหารปกติได้ตามที่ทนได้
- กิจกรรม: หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ๆ ในวันนั้น
- การติดตาม: ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำเฉพาะเกี่ยวกับเวลาที่จะกลับมาใช้ยาปกติและการนัดติดตามผล
- สัญญาณเตือน: ติดต่อแพทย์หากคุณมีอาการปวดท้องรุนแรง, มีไข้, อาเจียน หรือสัญญาณการติดเชื้อ เช่น รอยแดงหรือบวมที่จุดตัดชิ้นเนื้อ
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
- ตับอ่อนอักเสบ: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งมีความรุนแรงตั้งแต่เล็กน้อยถึงรุนแรง
- การติดเชื้อ: มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในท่อน้ำดีหรือตับอ่อน
- การเลือดออก: โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการตัดกล้ามเนื้อระหว่างท่อน้ำดีและท่อตับอ่อน
- การทะลุ: นาน ๆ ครั้งที่กล้องส่องหรือเครื่องมืออาจทำให้เกิดรูในลำไส้เล็ก ท่อน้ำดี หรือตับอ่อน
- ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการให้ยาระงับความรู้สึก: รวมถึงปัญหาทางเดินหายใจหรือปฏิกิริยาแพ้ต่อยาระงับความรู้สึก
การตรวจ ERCP (Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography) เป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีการรุกล้ำน้อยใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรคของตับ, ท่อน้ำดี, ถุงน้ำดี และตับอ่อน โดยให้ประโยชน์ด้านการวินิจฉัยและการรักษาที่สำคัญ แต่ก็มีความเสี่ยงบางประการ การเตรียมตัวอย่างถูกต้องและความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลลัพธ์การรักษา
แพทย์ที่ชำนาญการส่องกล้องท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
นพ.อรุณ ศิริปุณย์ อายุรแพทย์ด้านการส่องกล้องเพื่อการรักษา ศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ
สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง
โรงพยาบาลที่ชำนาญด้านการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
ศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมให้การตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาความผิดปกติของตับอ่อนและท่อทางเดินน้ำดี ด้วยการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) โดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญพยาบาล และทีมสหสาขา พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกวัน