เมื่อเกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารไม่ว่าจะเป็นอวัยวะใดย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แม้อาการอาจไม่รุนแรง แต่รบกวนการใช้ชีวิตได้มากกว่าที่คิด การตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เพื่อเช็กความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร (Endoscopic Ultrasound – EUS) จึงไม่เพียงช่วยวินิจฉัยโรค แต่ลดความรุนแรงของโรคก่อนสายเกินไป
การตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS) คืออะไร
การตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (Endoscopic Ultrasound – EUS) เป็นขั้นตอนพิเศษที่รวมการส่องกล้องและการอัลตราซาวนด์เข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพรายละเอียดของทางเดินอาหารและอวัยวะรอบ ๆ มักใช้เพื่อวินิจฉัยและการรักษา โดยให้ข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งวิธีการภาพอื่น ๆ อาจไม่สามารถให้ได้
ใครที่ต้องตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS)
- ผู้ที่ต้องวินิจฉัยและระบุระยะของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งหลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร, ตับอ่อน และทวารหนัก
- ผู้ที่ต้องตรวจสภาวะของตับอ่อน การวินิจฉัยถุงน้ำ ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง หรือก้อนเนื้องอก
- ผู้ที่ต้องตรวจสภาวะของท่อน้ำดี การประเมินนิ่วในท่อน้ำดีหรือการตีบตัน
- ผู้ที่ต้องตรวจสภาวะเนื้องอกใต้เยื่อเมือก การประเมินเนื้องอกใต้ชั้นเยื่อเมือกของทางเดินอาหาร
- ผู้ที่ต้องตรวจประเมินต่อมน้ำเหลือง โดยเฉพาะการประเมินต่อมน้ำเหลืองในช่องอกหรือต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง
ข้อดีของการตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS)
- ภาพของทางเดินอาหารและอวัยวะรอบ ๆ ที่มีความละเอียดสูง
- ความสามารถในการตัดชิ้นเนื้อ สามารถดูดชิ้นเนื้อหรือเซลล์ตัวอย่างจากบริเวณที่สงสัยได้
- ระบุระยะที่ถูกต้อง มีความสำคัญในการกำหนดระยะของมะเร็งบางประเภทเพื่อวางแผนการรักษา
- ใช้ในการรักษา ช่วยในการระบายถุงน้ำหรือหนอง, การวางท่อระบาย, หรือการให้ยาโดยตรงที่บริเวณเฉพาะ
เตรียมตัวก่อนส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS) อย่างไร
การเตรียมตัวอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญก่อนส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS)
- การอดอาหาร: ผู้ป่วยต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนการตรวจเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและลดความเสี่ยงต่อการสำลักขณะให้ยาระงับความรู้สึก
- การทบทวนยา: ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่กำลังรับประทานอยู่ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยารักษาโรคเบาหวาน และอาหารเสริมบางชนิดอาจต้องปรับหรือหยุดชั่วคราว
- ข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับอาการแพ้ใด ๆ โดยเฉพาะยาและยาชา
- การประเมินสุขภาพ: การประเมินก่อนการตรวจจะถูกดำเนินการเพื่อทบทวนประวัติทางการแพทย์และปฏิกิริยาที่เคยเกิดขึ้นกับยาระงับความรู้สึกหรือยาชา
- การให้ความยินยอม: ผู้ป่วยต้องให้ความยินยอมก่อนเข้ารับการรักษาเพื่อประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ระหว่างการตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS) เป็นอย่างไร
- การให้ยาระงับความรู้สึก ผู้ป่วยจะได้รับยาระงับความรู้สึกเพื่อให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย อาจเป็นการให้ยาระงับความรู้สึกที่ยังมีสติหรือการให้ยาชาทั่วไป
- การวางตำแหน่ง ผู้ป่วยจะถูกวางตำแหน่งให้นอนตะแคงซ้าย
- การใส่กล้องส่อง แพทย์จะใส่กล้องส่องผ่านทางปากและค่อย ๆ ดันผ่านหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น
- การสร้างภาพด้วยอัลตราซาวนด์: ส่วนประกอบอัลตราซาวนด์จะสร้างภาพรายละเอียดของอวัยวะทางเดินอาหารและเนื้อเยื่อรอบ ๆ
- การตัดชิ้นเนื้อ (ถ้าจำเป็น): หากพบความผิดปกติ แพทย์อาจทำการดูดชิ้นเนื้อหรือเซลล์ตัวอย่างเพื่อการวิเคราะห์เพิ่มเติม
ดูแลหลังส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS) อย่างไร
- เวลาฟื้นตัว: ผู้ป่วยจะถูกติดตามจนกว่ายาระงับความรู้สึกจะหมดฤทธิ์ ซึ่งปกติใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
- อาหาร: อาจเริ่มด้วยของเหลวใสและค่อย ๆ กลับไปทานอาหารปกติได้ตามที่ทานได้
- กิจกรรม: หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ๆ ในวันนั้น
- การติดตาม: ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำเฉพาะเกี่ยวกับเวลาที่จะกลับมาใช้ยาปกติและการนัดติดตามผล
- สัญญาณเตือน: ติดต่อแพทย์หากคุณมีอาการปวดท้องรุนแรง, มีไข้, อาเจียน หรือสัญญาณการติดเชื้อ เช่น รอยแดงหรือบวมที่จุดตัดชิ้นเนื้อ
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากการส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS)
- การติดเชื้อ: มีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อการติดเชื้อโดยเฉพาะที่จุดตัดชิ้นเนื้อ
- การเลือดออก: อาจเกิดการเลือดออกได้โดยเฉพาะหากมีการตัดชิ้นเนื้อ
- การทะลุ: นาน ๆ ครั้งที่กล้องส่องอาจทำให้เกิดรูในทางเดินอาหารหรืออวัยวะข้างเคียง
- ตับอ่อนอักเสบ: การอักเสบของตับอ่อนสามารถเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะเมื่อทำการตรวจตับอ่อน
- ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการให้ยาระงับความรู้สึก: รวมถึงปัญหาทางเดินหายใจหรือปฏิกิริยาแพ้ต่อยาระงับความรู้สึก
การตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS) ให้ภาพและข้อมูลการวินิจฉัยที่สำคัญในการจัดการสภาวะต่าง ๆ ของทางเดินอาหารและอวัยวะรอบ ๆ ดังนั้นการเตรียมตัวอย่างถูกต้องและมีความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนประโยชน์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลลัพธ์การรักษา
แพทย์ที่ชำนาญการส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS)
นพ.อรุณ ศิริปุณย์ อายุรแพทย์ด้านการส่องกล้องเพื่อการรักษา ศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ
สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง
โรงพยาบาลที่ชำนาญด้านการส่องกล้องอัลตราซาวนด์เช็กระบบทางเดินอาหาร (EUS)
ศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมให้การตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ด้วยการส่องกล้องอัลตราซาวนด์ตรวจเช็กระบบทางเดินอาหาร โดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญ พยาบาล และทีมสหสาขา พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ