ผิวหนังอักเสบหรือผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเป็นโรคที่พบได้ในทุกช่วงอายุ แต่พบได้บ่อยที่สุดในเด็ก โดยเฉพาะในช่วงก่อนวัย 1 ปี หากไม่รีบทำการรักษาและดูแลให้ถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจเป็นเรื้อรังจนถึงตอนโตได้ ดังนั้นการพบแพทย์โดยเร็วที่สุดนอกจากช่วยรักษาให้หายขาด ยังช่วยให้เจ้าตัวเล็กไม่หงุดหงิด งอแง พร้อมเรียนรู้ในทุกช่วงวัย
รู้จักผื่นแพ้ผิวหนังในเด็ก
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างผิวหนัง ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำ เมื่อผิวหนังสูญเสียน้ำเยอะ ผิวจะแห้งและเกิดการอักเสบได้ง่าย อาการมีตั้งแต่ระยะเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลัน และเรื้อรัง ซึ่งในเด็กแต่ละช่วงอายุจะมีอาการแตกต่างกัน หากอายุต่ำกว่า 2 ปีมักพบบริเวณแก้ม หน้าผาก คอ แขนและขาด้านนอก ข้อมือและข้อเท้า ส่วนเด็กโตมักพบบริเวณข้อพับ แขน ขา เท้า ข้อเท้า ซึ่งหากผู้ป่วยมีปรากฏอาการแรกเริ่มของโรคนี้ตอนโตมักจะหายยากกว่าผู้ป่วยที่มีอาการตอนเด็ก
อาการบอกโรค
หากเจ้าตัวเล็กมีอาการ 4 ข้อดังต่อไปนี้อาจบ่งบอกว่ากำลังเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
- มีผื่นแดง มีอาการคัน
- ผื่นขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ตามช่วงอายุ เช่น ผื่นมักเกิดที่บริเวณแก้ม หน้าผาก คอ แขนและขาด้านนอก ข้อมือ ข้อเท้าในทารก และผื่นมักเกิดตามข้อพับในเด็กโตและผู้ใหญ่
- ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ
- มีประวัติคนในครอบครัวสายตรงเป็นภูมิแพ้ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้มากขึ้น เช่น
- จมูกอักเสบภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)
- ภูมิแพ้ผิวหนัง
- หอบหืด
หากมีอาการไม่ครบทั้งหมด แต่มีอาการคัน มีผื่นบริเวณข้อพับ ซึ่งเด็กเล็กมักพบบริเวณข้อพับด้านนอก เด็กโตมักพบบริเวณข้อพับด้านใน มีผื่นผิวหนังอักเสบที่เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง มีประวัติครอบครัวหรือพี่น้องสายตรงเป็นโรคภูมิแพ้ ร่วมกับอาการผิวแห้ง รอบ ๆ ปากซีด ใต้ตาคล้ำ ขนคุด มีลักษณะคล้ายหนังไก่ (Perifollicular Accentuation) ผิวหนังไม่เรียบ ผิวแห้งหรือลักษณะเป็นขุย ผิวแตกหน้าหนาว อาจเป็นบางบริเวณหรือเป็นทั่วร่างกาย เหล่านี้ก็เป็นอาการร่วมที่บ่งบอกว่าเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้เช่นกัน ซึ่งควรต้องรีบพบแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญเพื่อวินิจฉัยโรคจะดีที่สุด
ตรวจเช็กผื่นแพ้ผิวหนังในเด็ก
ควรพบแพทย์เฉพาะทางโดยเร็วที่สุดเพื่อรักษาโรคผื่นแพ้ผิวหนังในเด็ก โดยแพทย์จะทำการพิจารณาลักษณะของผื่นที่เกิดขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ และซักประวัติโดยละเอียด เพื่อทำการแยกโรคที่ถูกต้องและทำการรักษาอย่างถูกวิธี เนื่องจากโรคผิวหนังในเด็กมีหลากหลาย อาทิ ภูมิแพ้ผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมันหรือเซ็บเดิร์ม โรคสะเก็ดเงิน โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง เป็นต้น
รักษาผื่นแพ้ผิวหนังในเด็ก
การรักษาผื่นแพ้ผิวหนังในเด็กมี 3 วิธีหลัก ๆ คือ
- การดูแลผิวเบื้องต้นและการใช้ครีมเพิ่มความชุ่มชื้น (Basic Skin Care) แพทย์จะทำการสอนวิธีการทาครีมและสอนวิธีปฏิบัติตัวในการดูแลผิวอย่างถูกต้อง การลดปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวแห้ง การเลือกใช้สบู่ และการอาบน้ำอย่างถูกวิธี
- ใช้ยาทาเพื่อลดการอักเสบตามที่แพทย์สั่ง โดยแพทย์จะเลือกชนิดของยาให้เหมาะสมกับลักษณะ ตำแหน่ง และความรุนแรงของผื่น ร่วมกับการสอนทายาอย่างถูกวิธี
- รับประทานยา เพื่อลดอาการคัน โดยที่ผู้ป่วยห้ามซื้อยามาทาหรือรับประทานเองโดยเด็ดขาด เพราะหากใช้ยาไม่ถูกกับโรคอาจส่งผลให้อาการแย่ลงได้
นอกจากนี้โรคผื่นแพ้ผิวหนังในเด็กมีโอกาสเกิดจากภูมิแพ้อาหารได้ โดยมักพบมีอาการร่วมกับระบบอื่นของร่างกาย เช่น มีอาการหายใจครืดคราดหรือถ่ายอุจจาระมีเลือดปนร่วมด้วย ในกรณีนี้แพทย์อาจทำการซักประวัติอาหารเพิ่มเติม หาสาเหตุ เพื่อรักษาตามอาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตามการหมั่นสังเกตอาการและความผิดปกติคือสิ่งสำคัญที่สุด หากเจ้าตัวเล็กมีผื่นคันที่เป็น ๆ หาย ๆ และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของโรค ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และดูแลผิวของเจ้าตัวเล็กอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อจะได้หายจากโรคโดยเร็วที่สุด