อายุที่เพิ่มมากขึ้นนำมาซึ่งปัญหาความหย่อนคล้อย โดยเฉพาะผิวหนังบนใบหน้าและบริเวณลำคอที่หย่อนลงส่งผลให้หน้าผากย่น คิ้วไม่ยก หางตาตก ทำให้ดูมีอายุ ไม่สดใส อ่อนเพลีย การศัลยกรรมดึงหน้าผากและคิ้วจึงเป็นการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยให้กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิม ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วด้วยการส่องกล้อง (Endoscopic Forehead & Brow Lift) เป็นอีกทางเลือกที่แผลเล็ก ใช้เวลาไม่นาน และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในระยะยาว
ผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้ว
การศัลยกรรมดึงหน้าผากและคิ้วเป็นการผ่าตัดยกหนังหน้าผากและคิ้วขึ้นไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม โดยใช้การผ่าตัดหนังศีรษะส่วนเกินและตัดแต่งกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผากและหัวคิ้ว การผ่าตัดนี้สามารถยกคิ้วและดึงหน้าผากให้ตึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อให้เกิดแผลเป็นขนาดยาวตามแนวที่คาดผม ใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน และมักมีอาการชาบริเวณกระหม่อมตามมา
ผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วผ่านกล้อง
การผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Forehead & Brow Lift) พัฒนามาจากวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่ต้องตัดหนังศีรษะทิ้ง มาเป็นการผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วผ่านการส่องกล้องที่ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญจะเปิดแผลไม่เกิน 2 เซนติเมตร จำนวน 2 – 3 จุด จากนั้นจะใช้กล้องเอนโดสโคปสอดเข้าไปเพื่อแสดงผลกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และเส้นประสาทที่ชัดเจนผ่านจอภาพ โดยใช้เครื่องมือพิเศษเลาะแยกชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกระดูกออกจากกะโหลกศีรษะ แล้วจึงดึงและยึดกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยขึ้นไปด้านบน โดยใช้ Endotine วัสดุทางการแพทย์ที่มีลักษณะเป็นหมุดขนาดเล็ก ถูกออกแบบมาให้กระจายแรงได้ดี เพื่อยกกระชับ ยึดผิวหนัง ลดริ้วรอย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเข้ามาช่วย จึงยกผิวได้เรียบตึงโดยไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะทิ้ง ช่วยลดระยะเวลาในการผ่าตัดเหลือเพียง 1 – 2 ชั่วโมง แผลมีขนาดเล็กซ่อนในไรผมได้ พักฟื้นไม่นาน เส้นประสาทและเนื้อเยื่อไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งผลลัพธ์หลังการผ่าตัดอยู่ได้นานประมาณ 5 ปีขึ้นไปโดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัด
- ผู้ที่มีรอยย่นบนหน้าผาก
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก, หางตาตก
- ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก
- ผู้ที่มีรอยขมวดที่หว่างคิ้ว
- ผู้ที่เคยทำผ่าตัดหนังตาส่วนเกินแล้วชั้นตายังหนา ไม่ธรรมชาติ
ข้อจำกัด
- ผู้ที่สักคิ้วไว้สูงกว่าคิ้วธรรมชาติมาก
- ผู้ที่เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
- ผู้ที่มีคิ้วสูงต่ำไม่เท่ากัน (อาจไม่สามารถแก้ให้เท่ากันได้สมบูรณ์)
- ผู้ที่มีหน้าผากกว้าง ตีนผมอยู่สูงมาก
เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด ได้แก่
- ปัญหาสุขภาพ
- โรคร้ายแรง / โรคประจำตัว
- ประวัติการผ่าตัดและการได้ยาระงับความรู้สึก
- ฟันโยก ฟันปลอม และปัญหาเกี่ยวกับฟัน
- การแพ้ยา / แพ้อาหาร
- อื่น ๆ
- ในกรณีมีภาวะเสี่ยงหรือโรคประจำตัวจะมีการเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการผ่าตัดและดมยาสลบ ได้แก่
- การเอกซเรย์
- การตรวจเลือด
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรม
- งดใช้ยา ยาบำรุง สมุนไพรบางชนิดที่อาจมีผลกับการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน และนำยาประจำตัวและยาสมุนไพรต่าง ๆ ที่รับประทานมาโรงพยาบาลเพื่อแจ้งแพทย์ในวันผ่าตัด เช่น
- ยาแก้ปวด
- ยาแอสไพริน
- วิตามินดี วิตามินซี
- น้ำมันตับปลา
- อื่น ๆ
- งดสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัดประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยื่อตายได้ ถ้าสูบบุหรี่จัดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที และควรงดสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หยุดดื่มสุรา ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และควรหยุดดื่มสุราหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- อาบน้ำชำระร่างกายและสระผมให้สะอาด
- ห้ามใช้เครื่องสำอาง
- งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการสูดสำลักน้ำย่อยหรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าไปสู่ปอดระหว่างการได้รับยาระงับความรู้สึก
- เลี่ยงการผ่าตัดช่วงมีประจำเดือน
- เตรียมเสื้อกระดุมหน้า เพื่อจะได้สวมสะดวกหลังวันผ่าตัด ไม่ถูกแผลขณะถอดเปลี่ยนเสื้อผ้า
ดูแลหลังผ่าตัด
- นอนหงาย ยกส่วนหลังและศีรษะขึ้น หากเลือดออกมากให้มาพบแพทย์ทันที
- ใช้ Face Wrap หลังผ่าตัด ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของแพทย์แต่ละท่าน
- ประคบเย็นในตำแหน่งที่ได้รับการผ่าตัด ช่วยลดอาการบวม
- สัปดาห์แรกหลังผ่าตัดควรพักที่บ้าน ประมาณ 5 – 7 วันหลังผ่าตัดจะมีการตัดไหม สามารถล้างหน้า สระผมได้ตามปกติเมื่อได้รับอนุญาตจากแพทย์
- ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังผ่าตัดใบหน้าอาจบวมและมีรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองใน 2 – 3 สัปดาห์ และใบหน้าจะกลับสู่สภาพปกติในช่วง 1 – 3 เดือนหลังผ่าตัด
- ไม่ควรหวีผมหรือไดร์ผมอย่างรุนแรงหลังผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 สัปดาห์
- งดดื่มสุราและงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง ฯลฯ
- มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจพบ
- ปวดบวม สามารถกินยาแก้ปวดได้
- เกิดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
- เลือดออกบริเวณแผลผ่าตัด
- แผลหายช้าหรือขอบแผลหายไม่สนิท
- เส้นประสาทกระทบกระเทือน ทำให้เป็นอัมพาตบริเวณใบหน้าส่วนคิ้วชั่วคราว หรือมีอาการชาหนังศีรษะบางส่วนชั่วคราว
สิ่งสำคัญในการผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วคือการทำการรักษากับศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางและสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาเป็นที่น่าพอใจ ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ