ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง

2 นาทีในการอ่าน
ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง

การกินเค็มส่งผลเสียต่อไต ยิ่งไปกว่านั้นยังเพิ่มความเสี่ยงโรคไตเรื้อรังและเร่งให้ไตเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นการรู้เท่าทันโรคไตเสื่อมเรื้อรังและลดเค็มตั้งแต่วันนี้ จึงไม่เพียงช่วยดูแลให้ไตแข็งแรง ยังช่วยให้ไตไม่เสื่อมก่อนวัยจนต้องเสียไตไป


รู้จักโรคไตเรื้อรัง

ไตเรื้อรังเป็นภาวะที่การทำงานของไตค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ไตจะค่อย ๆ มีขนาดเล็กลง ค่าอัตราการกรองของไตผิดปกติมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป หากไม่รีบรักษาอาจไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายต้องรักษาโดยการทดแทนไตเท่านั้น 


กลุ่มเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง

  • ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่  60 ปีขึ้นไป เพราะค่าการกรองไตลดลง
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่มีคนในครอบครัวป่วยโรคไตเรื้อรัง
  • ผู้ที่มีไตข้างเดียวตั้งแต่กำเนิด

สังเกตอาการบอกไตเรื้อรัง

  • ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
  • ปัสสาวะเป็นฟองและต้องราดน้ำมากกว่า 2 – 3 ครั้ง
  • หน้าและหนังตาบวม ขาบวมกดแล้วบุ๋ม จากการคั่งของเกลือและน้ำและมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะมาก
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย 
  • ซีด 
  • คันตามตัว
  • เบื่ออาหาร
  • ความดันเลือดสูง

ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง


ประเภทไตเรื้อรัง

โรคไตเรื้อรังแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ตามระดับอัตราการกรองของไต (Estimated Glomerular Filtration Rate, eGFR) ซึ่งคือปริมาณเลือดที่ไหลผ่านตัวกรองของไตใน 1 นาที (มล./นาที/1.73 ตร..)

ระยะโรคไตเรื้อรัง

อัตราการกรองไต
(eGFR) (มล./นาที/1.73 ตร..)

การแปลผล

ระยะที่ 1

> 90

มีภาวะไตผิดปกติ อัตราการกรองยังปกติ

ระยะที่ 2

60 – 90

มีภาวะไตผิดปกติ อัตราการกรองยังปกติ

ระยะที่ 3

30 – 59

อัตราการกรองลดลงปานกลางถึงมาก

ระยะที่ 4

15 – 29

อัตราการกรองลดลงมาก

ระยะที่ 5

< 15

ไตวายระยะสุดท้าย


ตรวจวินิจฉัยไตเรื้อรัง

แพทย์จะพิจารณาจากการตรวจเลือดและปัสสาวะเป็นหลัก โดยจะพิจารณาอัตราการกรองของไต (Estimated Glomerular Filtration Rate, eGFR) และการบาดเจ็บของไต เช่น โปรตีนรั่วในปัสสาวะเกิน 3 เดือน ถุงน้ำที่ไต เป็นต้น


รักษาไตเรื้อรัง

หลักการรักษาโรคไตเรื้อรัง คือการประคับประคองและป้องกันการชะลอไตไม่ให้เสื่อมเพิ่มขึ้น โดยไตจะไม่สามารถกลับไปดีกว่าเดิมได้ แต่สามารถดูแลให้ไม่เสื่อมมากกว่าเดิมหรือถดถอยลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้ป่วยเป็นสำคัญ


ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง

ลดเค็มชะลอไตเสื่อม 

การลดเค็มเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง เพราะเกลือทำให้มีการสะสมของน้ำในร่างกายเยอะขึ้น ส่งผลให้เกิดการคั่งและบวม ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขจัดออก แรงดันในหน่วยไตสูงขึ้นจนพบโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ดังนั้นการลดเค็มจึงเป็นการช่วยไตไม่ให้ทำงานหนัก เมื่อร่างกายไม่บวม แรงดันในหน่วยไตปกติ ไม่เกิดโปรตีนรั่ว สามารถช่วยชะลอไตเสื่อมได้ 


เทคนิคลดโซเดียม

  • ไม่ควรกินโซเดียมเกิน 2 กรัมต่อวัน 
  • ระวังอาหารที่ไม่เค็ม แต่มีโซเดียม เช่น อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงรส ผงชูรส อาหารหมักดอง ขนมปังที่ใส่ผงฟู ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น 
  • ทำอาหารเองได้ย่อมดีที่สุด เพราะควบคุมปริมาณโซเดียมในอาหารได้ โดยเฉพาะการเลือกเครื่องปรุงที่โซเดียมต่ำและใส่ให้น้อยลง
  • เลี่ยงอาหารเสริมที่มีปริมาณโซเดียมสูง ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนรับประทาน

เพราะไตเสื่อมเรื้อรังอาจรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตการป้องกันความเสื่อมและดูแลไตให้แข็งแรงจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจโดยเฉพาะการลดเค็มช่วยให้ไตไม่ต้องทำงานหนักและในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงควรตรวจเช็กกับแพทย์เฉพาะทางเป็นประจำทุกปีหากพบความผิดปกติจะได้รีบรักษาโดยเร็วที่สุด

ข้อมูลโดย

Doctor Image
นพ. รัฐวีร์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคไต
นพ. รัฐวีร์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคไต
Doctor profileDoctor profile
Loading

กำลังโหลดข้อมูล

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์โรคไต

ชั้น 3 อาคาร C โรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ดูแพทย์ทั้งหมด