การเข้าใจและการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวเล็กเรียนอนุบาลได้สุขสนุก
เจ้าตัวเล็กที่มีปัญหาพัฒนาการและพฤติกรรม เด็กออทิสติก เด็กสมาธิสั้นควรพบกุมารแพทย์และเข้ารับการเรียนรู้เป็นกลุ่มตามโปรแกรม Hospital Kindergarten Group เพื่อให้เติบโตอย่างมีคุณภาพในทุกช่วงชีวิต
เมื่อลูกน้อยกำลังจะกลายเป็นเด็กยุคดิจิทัลที่มีทั้งความรวดเร็วและความสะดวกสบาย อีกทั้งสังคมที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงเป็น “จักรวาลนฤมิต” หรือ Metaverse ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงลูกอย่างไรให้พวกเขากลายเป็นเด็กในยุคอนาคตได้อย่างมีความสุข
คงจะดีไม่น้อยถ้าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจในศักยภาพที่แฝงเร้นในสมองของลูกเพื่อการพัฒนาไปสู่ความเป็นอัจฉริยภาพ ให้ลูกได้ค้นพบตัวตนภายในและค้นหาพรสวรรค์ที่แท้จริง
การเตรียมความพร้อมเพื่อให้คุณแม่คลอดลูกออกมาอย่างสมบูรณ์เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และเมื่อเจ้าตัวเล็กลืมตาดูโลกการประคบประหงมดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้ลูกน้อยแข็งแรงและมีพัฒนาการสมวัยเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรเอาใจใส่เป็นพิเศษเพื่อเติมเต็มศักยภาพลูกน้อยในทุกย่างก้าวของการเติบโต
สุดยอดพฤติกรรมลูกที่พ่อแม่พบบ่อย ๆ คือ ใจร้อน ไม่ยอมรอ ร้องไห้ เอาแต่ใจ ขี้เบื่อ ไม่อดทน โวยวายตลอดเวลา ดื้อ ก้าวร้าว ขาดสมาธิ มีพัฒนาการช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน แล้วจะเลี้ยงแบบไหนดี และจะดีไหมถ้าสามารถเข้าใจและค้นพบศักยภาพลูกน้อยได้ตั้งแต่วัยเด็ก
หากเด็กแสดงออกถึงความโกรธและความก้าวร้าวที่รุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ขว้างปาข้าวของ ทำร้ายเพื่อนหรือผู้อื่น เป็นต้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรต้องสอนวิธีการบริหารจัดการความโกรธให้กับเจ้าตัวเล็กและปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อควบคุมอารมณ์โกรธของเด็กให้อยู่ในระดับที่ปกติ
ปัจจุบันพบว่าเด็กวัยเตรียมอนุบาลและวัยอนุบาลเสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมที่คล้ายออทิสติกมากขึ้น ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มาจากวิธีการเลี้ยงดู แต่พฤติกรรมที่คล้ายหรือเหมือนจะเป็นออทิสติกนี้สามารถป้องกันและแก้ไขได้หากคุณพ่อคุณแม่รู้เท่าทันและใส่ใจดูแลลูกแบบใกล้ชิด
พัฒนาการของเจ้าตัวเล็กบางครั้งอาจบ่งบอกความผิดปกติได้ ขอเพียงพ่อแม่ผู้ปกครองหมั่นสังเกตและอย่าปล่อยผ่านเมื่อเกิดความสงสัย โดยเฉพาะโรคสมาธิสั้น (ADHD - Attention Deficit Hyperactivity Disorder) หากรู้เท่าทันและรักษาได้ทันท่วงทีย่อมช่วยให้อาการของเจ้าตัวเล็กดีขึ้นและเติบโตได้อย่างมีความสุข
หากคุณพ่อคุณแม่ทราบจุดเด่นและจุดอ่อนของลูกจะสามารถต่อยอดเสริมทักษะได้อย่างถูกทาง ส่งผลให้สามารถเพิ่มศักยภาพของลูกได้อย่างเต็มที่
โตขึ้นลูกเราจะสูงไหม คำถามที่พ่อแม่มักสงสัยและกังวลใจ การคำนวณความสูงสุดท้ายของลูกรักอย่างถูกวิธีและเข้าใจถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องย่อมช่วยให้เข้าใจการเจริญเติบโตของลูกและรับมือกับปัญหาได้ทันท่วงที
เด็กแต่ละคนมีพื้นฐานอารมณ์และตัวตนที่แตกต่างกันจึงตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเข้าใจตัวตนของเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่พ่อและแม่จะตอบสนองให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน เพื่อให้มีพัฒนาการที่เป็นเลิศสำหรับแต่ละวัย