สงกรานต์ สูงอายุ - เด็กเล็ก เสี่ยงกระดูกหักจากลื่นล้ม วูบ (ลมแดด) อันตรายอาจเสียชีวิต

4 นาทีในการอ่าน
สงกรานต์ สูงอายุ - เด็กเล็ก เสี่ยงกระดูกหักจากลื่นล้ม วูบ (ลมแดด) อันตรายอาจเสียชีวิต

trauma

สงกรานต์ประเพณีรื่นเริงดับร้อนของชาวไทย แต่แฝงไปด้วยความอันตรายมากมายที่เราคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นอาการวูบ หน้ามืด ภาวะลมแดด ในวันที่อากาศร้อนจัดหรืออุบัติเหตุลื่นล้ม หมดสติ ศีรษะกระแทก กระดูกหักจากการเล่นที่ไม่ระมัดระวังก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง การเข้าช่วยเหลือและรับมือกับสถานการณ์อย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

 

พญ.สมจินตนา เอี่ยมสรรพางค์ ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉิน  โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า “การดูแลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุควรได้รับการดูแลโดยบุคลากรการแพทย์ที่ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินโดยเฉพาะ ซึ่งต้องมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกับประเมินการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น เพื่อวางแผนการเคลื่อนย้ายและดูแลได้ตามมาตรฐานการดูแลผู้บาดเจ็บก่อนนำส่งยังสถานพยาบาลที่มีความพร้อมอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บด้วยตนเองในบางครั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้นได้ สำหรับผู้สูงอายุอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ในทุก ๆ สถานการณ์ อย่างเช่น ในเทศกาลสงกรานต์ มีการเล่นสาดน้ำ ลูกหลานมาขอพรและรดน้ำให้ผู้ใหญ่ หรืออากาศที่ร้อนจัด ถ่ายเทไม่สะดวก ก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่อาจนำพาปัญหาเรื่องการลื่นหกล้มในผู้สูงอายุ เนื่องจากพยาธิสภาพของผู้สูงอายุจะพบปัญหาเรื่องกระดูกบางหรือกระดูกพรุน การลื่นหกล้มจึงเกิดการแตกหรือหักได้ง่าย  เมื่อผู้ป่วยหกล้มและสงสัยว่ามีกระดูกสะโพกหัก สามารถสังเกตได้คือ จะมีอาการปวดบริเวณสะโพกข้างที่หัก ลุกเดินไม่ได้ หรือลงน้ำหนักขาข้างที่สะโพกหักไม่ได้ เมื่อขยับขาข้างที่สะโพกหักจะปวดมาก หากญาติพบผู้ป่วยหกล้มและสงสัยกระดูกสะโพกหักให้ผู้ป่วยพักในท่าที่สบาย พยายามอย่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และโทรเรียกรถพยาบาลมารับผู้ป่วยไปตรวจ”

 

รักษากระดูกสะโพกหัก

วิธีการรักษาจะพิจารณาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยและตำแหน่งการหักของกระดูกสะโพก โดยจะมี 2 วิธีคือ

  1. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้วย เทคนิคผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกแบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ หรือ (Direct Anterior Approach Total Hip Replacement) ลดอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัด รวมถึงช่วยลดอัตราการเกิดข้อสะโพกหลุดหลังผ่าตัด พักฟื้น 2 – 4วัน
  2. การผ่าตัดยึดตรึงกระดูกแบบแผลเล็ก หรือ Minimally Invasive Plate Osteosynthesis (MIPO) ช่วยให้เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเยื่อหุ้มกระดูกบอบช้ำน้อย ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว กระดูกติดเร็ว มีแผลขนาดเล็กสวยงาม และลดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระดูกติดช้า และการติดเชื้อ และยังรวมถึงการดูแลหลังการผ่าตัดด้วยการกายภาพบำบัดเฉพาะสำหรับผู้สูงวัย ทั้งการฝึกเดินโดยใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ลู่วิ่งต้านแรงโน้มถ่วง ที่เรียกว่า Alter G เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นการได้รับการผ่าตัดอย่างรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง ผู้สูงอายุก็จะฟื้นตัวเร็วป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน รวมไปถึงอัตราการเสียชีวิตลดลงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ

 

โรคลมแดด (Heat Stroke)

นับเป็นภัยร้ายที่มากับหน้าร้อนและถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ กลุ่มที่พบได้บ่อยคือ ในผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ซึ่งร่างกายจะไม่สามารถทนกับความร้อนได้มากและนาน ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะลมแดด ซึ่งผู้สูงอายุโดยทั่วไปจะมีโรคประจำตัวหลายโรคและกินยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาเบาหวานที่อาจก่อให้การระบายความร้อนของร่างกายลดลง ดื่มน้ำน้อย ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยและในเด็กเล็กร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่จากความร้อนได้ง่ายกว่าในผู้ใหญ่ หากเล่นหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีแดดจัดนานหลายชั่วโมง แม้แต่การเล่นน้ำในสวนน้ำ ซึ่งหากอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียส จะมีผลกับการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท อวัยวะต่าง ๆ ทำงานล้มเหลว จนทำให้เสียชีวิตได้

การดูแลผู้ป่วยจากภาวะลมแดดเบื้องต้น คือ พาผู้ป่วยไปในที่ร่ม พยายามลดอุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยให้เร็วที่สุดด้วยวิธีการที่หาได้ อาทิ พ่นละอองน้ำร่วมกับเปิดพัดลมเป่าหรือแช่ในน้ำเย็นจะช่วยระบายความร้อนได้ดีที่สุด หากผู้ป่วยมีอาการซึม ชัก ควรรีบเรียกรถพยาบาลเพื่อนำส่งยังสถานพยาบาลอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันภาวะลมแดด คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดเวลาเล่นไม่ให้ลูกอยู่กลางแดดนานเกินไปและให้เด็กดื่มน้ำมาก ๆ เนื่องจากเด็กมักห่วงเล่นจนลืมดื่มน้ำ

image

นอกจากนี้หากวูบเป็นลมล้มลงกับพื้นมีโอกาสเสี่ยงที่ศีรษะกระแทกพื้นและอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงของสมองโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผู้บาดเจ็บที่หมดสติชั่วคราว จำเหตุการณ์หลังจากศีรษะฟาดพื้นไม่ได้ ผู้ป่วยที่กินยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือด หรือมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนมากหลังศีรษะกระแทก ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวควรได้รับการตรวจทางรังสีเพื่อประเมินว่ามีภาวะเลือดออกในสมองหรือไม่

ในบางกรณีที่ความเสี่ยงสูงมากอาจต้องได้นอนสังเกตอาการในโรงพยาบาลเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แม้ผลตรวจทางรังสีปกติในผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงอาจมีอาการแสดงของการบาดเจ็บทางสมองทันที เช่น ซึม เรียกไม่รู้สึกตัว ชัก แขนขาอ่อนแรง ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรได้รับการดูแลและเคลื่อนย้ายจากที่เกิดเหตุอย่างเหมาะสมโดยทีมฉุกเฉิน เพื่อนำส่งยังสถานพยาบาลที่เหมาะสมที่มีศัลยแพทย์ประสาทดูแล หากพบมีเลือดออกในสมองหรือมีภาวะสมองบวม แพทย์อาจต้องทำการผ่าตัดสมองเพื่อลดแรงดันในสมองจากการกดทับเนื้อสมอง เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ป่วยที่จะทำให้เสียชีวิตหรือพิการตลอดชีวิต

หากผู้ป่วยที่แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นการบาดเจ็บที่ศีรษะในระดับไม่รุนแรง ภายหลังได้รับการรักษาเบื้องต้น และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่มีความจำเป็นต้องได้รับการเฝ้าสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิดอีกอย่างน้อย 1 – 2 วัน (อาจจำเป็นต้องเฝ้าดูอาการนานขึ้น ในผู้สูงอายุบางรายอาจเกิดอาการได้หลายสัปดาห์หลังเกิดอุบัติเหตุ) และหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นต้องกลับมาพบแพทย์โดยเร็ว

 

ป้องกันอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์

ในฤดูร้อนแห่งการพักผ่อนและเทศกาลท่องเที่ยวนี้ นอกจากอากาศที่ร้อนแล้ว ถนนที่ลื่นจากการเล่นสงกรานต์ก็อาจนำมาซึ่งอันตรายได้ เราสามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ หากทุกคนใส่ใจให้ความระมัดระวังดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็ก

การป้องกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากเราทุกคนช่วยกัน เล่นสงกรานต์อย่างไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎหมาย จะเป็นสงกรานต์ที่มีแต่ความสุข อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งในประเทศไทยมีระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่มีบุคลากรการแพทย์พร้อมรถพยาบาลที่ให้การดูแลเคลื่อนย้ายและส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว โดยประชาชนสามารถขอใช้บริการได้ที่เบอร์ 1669 ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และส่งทีมรถพยาบาลไปให้การดูแลเคลื่อนย้ายในกรณีที่จำเป็น ในบางครั้งการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยขาดความรู้อาจนำไปสู่การพิการหรือเสียชีวิตได้

 

ศูนย์อุบัติเหตุ


 หากเกิดอุบัติเหตุ ศูนย์อุบัติเหตุ (Trauma Center) โรงพยาบาลกรุงเทพ และศูนย์ประสานสั่งการทางการแพทย์ (BDMS Alarm Center) เป็นศูนย์กลางการประสานงานและอำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมทั้งการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยทั้งทางบกและทางอากาศ พร้อมรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ที่เบอร์โทร 1724 หรือ 1719  ซึ่งมีความพร้อมด้านเวชศาสตร์ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและทีมสหวิชาชีพพร้อมให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง

 

Loading

กำลังโหลดข้อมูล