หูฟังกับสุขภาพหู

3 นาทีในการอ่าน
หูฟังกับสุขภาพหู

หูฟังเป็นแก็ดเจ็ตที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้ได้ยินเสียงชัดเจน ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี สะดวกในการพกพา แต่การใส่หูฟังเป็นประจำอาจเกิดอันตรายได้ ถ้าไม่ระวังในเรื่องของระดับเสียงและระยะเวลาในการใช้ เพราะการฟังเสียงที่ดังมากใกล้หูติดต่อกันเป็นเวลานานทำร้ายหูได้มากกว่าที่คิด จึงควรใช้หูฟังอย่างเหมาะสม

การได้ยินของหู

การได้ยินของหูเกิดจากคลื่นเสียงกระทบแก้วหู ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนที่ส่งต่อไปยังหูชั้นในที่เชื่อมต่อกับหูชั้นในรูปหอยโข่ง ยิ่งเสียงดังการสั่นสะเทือนจะยิ่งแรงขึ้น ดังนั้นการฟังเสียงดังมากเป็นเวลานานจะทำให้สูญเสียความไวต่อแรงสั่นสะเทือน ส่งผลให้สูญเสียการได้ยินชั่วคราว เมื่อฟื้นฟูรักษาสามารถกลับมาได้ยินดังเดิม แต่หากไม่สามารถฟื้นฟูได้ก็อาจสูญเสียการได้ยินถาวร ซึ่งระดับเสียงขณะใช้หูฟังมีความสำคัญมาก หากฟังระดับเสียงที่ดังมากเกินไป หรือฟังระดับเสียงปานกลางติดต่อกันเป็นเวลานานก็เป็นอันตรายต่อหูได้เช่นกัน


ระดับเสียงกับสุขภาพหู

ระดับความดังของเสียงมีหน่วยที่เรียกว่าเดซิเบล (Decibel) โดยเดซิเบล dB (A) คือ สเกลของเครื่องวัดเสียงที่สอดคล้องกับการได้ยินของมนุษย์ ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้กำหนดว่าระดับเสียงที่ดังเกินกว่า 85 เดซิเบล (เอ) เป็นอันตรายต่อมนุษย์ หากฟังระดับเสียงนี้มากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันจะเป็นอันตรายต่อประสาทหูจึงควรต้องระวัง

โดยระดับเสียงในชีวิตประจำวันมีหลายระดับ ได้แก่ 

  • ระดับเบามาก [0 – 30 dB (A)] เช่น เสียงกระซิบ
  • ระดับเบา [40  – 50 dB (A)] เช่น เสียงพิมพ์ดีด
  • ระดับปานกลาง [60 – 70 dB (A)] เช่น เสียงสนทนาทั่วไป
  • ระดับดัง [80 – 90 dB (A)] เช่น เสียงจราจร เสียงบนท้องถนน เสียงรถบัส เสียงรถบรรทุก เสียงตะโกน
  • ระดับดังมาก [100 – 110 dB (A)] เช่น เสียงขุดเจาะถนน
  • ระดับดังมากที่สุด [120 – 140 dB (A)] เช่น เสียงค้อน เสียงเครื่องปั๊มโลหะ เสียงเครื่องบินขึ้น

ใช้หูฟังให้ดีต่อหู

การใส่หูฟังเป็นอันตรายต่อหูเมื่อฟังเสียงดังมากเกินไปจะเสี่ยงกับการหูอื้อ หูตึง มีเสียงรบกวนในหู ซึ่งระยะเวลาและระดับความดังมีผลใกล้กัน ยิ่งใกล้ความเข้มเสียงมาก ความดังยิ่งมาก รวมถึงถ้าฟังนาน ๆ การได้ยินจะลดลงเรื่อย ๆ เซลล์รับฟังเสียงเสื่อมลงเรื่อย ๆ ในที่สุด 

นอกจากนี้ในผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงขณะออกกำลังกาย การใส่หูฟังมักใส่อัดแน่นเข้าไปในรูหู เมื่อเหงื่อออกมีการเปียกเหงื่อ อาจเสียดสีจนอักเสบได้ จึงควรใส่ใจเลือกหูฟังที่สามารถใส่แบบหลวม ๆ ไม่ต้องกดอัดในรูหู เพื่อป้องกันการอักเสบที่เกิดขึ้นกับหู


หูฟังกับสุขภาพหู 

ผลเสียเมื่อฟังเสียงดังเกินมาตรฐาน

ผลเสียจากการฟังเสียงดังเกินมาตรฐานติดต่อกันเป็นเวลานานได้แก่

  • ผลเสียต่อสุขภาพหู : ประสาทหูชั้นในเสื่อมก่อนวัยอันควร เกิดเสียงรบกวนในหู สูญเสียการได้ยิน อาจร้ายแรงถึงขั้นพิการหูหนวก
  • ผลเสียต่อสุขภาพจิต : เครียด หงุดหงิด ไม่สบายใจ
  • ผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน : เสียบุคลิกภาพ ไม่สามารถสื่อสารกับคนรอบข้างด้วยระดับความดังเสียงที่ปกติได้ ขาดสมาธิ ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน

สัญญาณเตือนหูผิดปกติ

  • หูอื้อและหูตึง
  • ได้ยินเสียงวิ้งในหู
  • ปวดหูเมื่อเสียงดัง
  • เปิดทีวีดังจนคนรอบข้างทัก
  • มีปัญหาการสื่อสาร เริ่มฟังไม่ชัด

ตรวจวินิจฉัย

  • ซักประวัติและระยะเวลาที่มีเสียงรบกวนในหู
  • ตรวจการได้ยินเพื่อดูการบกพร่องทางการได้ยิน  (Audiometry) 
  • ตรวจวัดการได้ยินโดยวิธีพิเศษ (Bekesy Audiomety)
  • ตรวจวัดการได้ยินในระดับก้านสมอง (Auditory Brainstem Response)
  • ตรวจการทำงานของปลายประสาทเซลล์ขน (Otoacoustic Emissions – OAEs)

วิธีการรักษา

การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุเป็นสำคัญ หากสูญเสียการได้ยินหรือเกิดขึ้นกับหูชั้นใน กว่าจะรู้ตัวมักมาพบแพทย์ช้า ทำให้โอกาสในการรักษายิ่งน้อยลง ดังนั้นการสังเกตความผิดปกติจึงเป็นเรื่องสำคัญ หรือการทดสอบการได้ยินเมื่อตรวจสุขภาพประจำปีจะช่วยให้ทราบความผิดปกติได้ แต่หากความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณหูชั้นนอกและหูชั้นกลางสามารถรักษาด้วยการผ่าตัดและการใช้ยา ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทาง


หูฟังกับสุขภาพหู 

ป้องกันหูพังจากหูฟัง

  • การใช้งานหูฟังในเด็กระดับเสียงไม่ควรเกิน 75 เดซิเบล ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในผู้ใหญ่ระดับเสียงไม่ควรเกิน 80 เดซิเบล ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
  • เลือกหูฟังที่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อลดการปรับเสียงดังในการฟัง
  • ใช้หูฟังแบบแนบหรือครอบหูแทนแบบเสียบหูหรือเอียร์บัด เพราะระยะห่างระหว่างแก้วหูและลำโพงมีมากกว่า ช่วยลดโอกาสในการสูญเสียการได้ยิน
  • ทำความสะอาดหูฟังเสมอเพื่อลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับหู


การใช้หูฟังที่ดีต้องฟังในระดับเสียงที่เหมาะสมและไม่ฟังติดต่อกันนานจนเกินไป เพื่อป้องกันความผิดปกติและความเสื่อมที่จะเกิดขึ้นกับหู ที่สำคัญหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจรักษาโดยเร็ว

ข้อมูลโดย

Doctor Image
ศ. เกียรติคุณ พญ. สุจิตรา ประสานสุข

โสต ศอ นาสิกวิทยา

ศ. เกียรติคุณ พญ. สุจิตรา ประสานสุข

โสต ศอ นาสิกวิทยา

Doctor profileDoctor profile
Loading

กำลังโหลดข้อมูล

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์การได้ยิน การพูด การทรงตัวและเสียงในหู

ชั้น 2 อาคารโรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ

จันทร์ – ศุกร์ 08.00 - 19.00 น.

วันเสาร์ อาทิตย์ 08.00 - 16.00 น.

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ดูแพทย์ทั้งหมด