ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)

ศูนย์สั่งการ BDMS Medevac Center และ Bangkok Hospital Phuket Dispatch Center

BES

รับแจ้งเหตุ

  • รับเรื่อง 24 ชม.
  • ล่ามหลายภาษา

ให้คำปรึกษา

  • แพทย์เฉพาะทาง
  • ให้คำแนะนำ และแผนการเคลื่อนย้าย

ประสานงาน

  • รถพยาบาลฉุกเฉิน
  • ส่งต่อระหว่างสถานพยาบาล
  • การประเมินค่าบริการในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

ส่งต่อผู้ป่วยอย่างไร้รอยต่อ

  • นำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลที่มีศักยภาพ

สถานที่ทำการ:
ชั้น 17 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพสำนักงานใหญ่
เลขที่ 2 ซ.ศูนย์วิจัย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ 11130
เบอร์โทร +6627169999
e-mail: [email protected]


การขอรถพยาบาลฉุกเฉิน

ท่านควรขอความช่วยเหลือจากหน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุดทันที เมื่อพบเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ ได้แก่

  • อาการเจ็บแน่นหน้าอก
  • หายใจลำบาก
  • ภาวะเลือดออกที่ควบคุมไม่ได้ หรือมีภาวะช็อกอื่น ๆ
  • ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากความร้อน เช่น ไฟไหม้ ฯลฯ
  • ได้รับอันตรายจากสารพิษ
  • หมดสติหรือชักต่อเนื่อง
  • อาการที่สงสัยภาวะหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบเฉียบพลัน เช่น อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เดินเซ อัมพาตอ่อนแรง หรือชาครึ่งซีก มุมปากตก พูดไม่ชัด สูญเสียการมองเห็นเฉียบพลัน
  • ได้รับบาดเจ็บรุนแรง เช่น ตกจากที่สูง อุบัติเหตุรถชนความเร็วสูง เป็นต้น

โทรขอความช่วยเหลืออย่างไร?

ตั้งสติและโทร

ก่อนขอความช่วยเหลือให้ท่านตั้งสติให้ดี และกดเบอร์รถพยาบาลฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด

  • สำหรับศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพดุสิตเวชการ (BES) ให้โทร 1-7-2-4
  • และสำหรับรพ.กรุงเทพภูเก็ต กรุงเทพสิริโรจน์ให้โทร 1-7-1-9
  • หรือกดขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน BES i lert you

ตอบคำถาม !

เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุจะทำการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเหตุฉุกเฉิน แม้ว่าท่านจะรู้สึกคำถามดังกล่าวทำให้เสียเวลา แต่ทุกคำถามนั้นมีความสำคัญต่อการส่งความช่วยเหลือที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้ป่วย และในขณะสอบถามข้อมูลนั้นเจ้าหน้าที่สั่งการจะทำการติดต่อประสานงานส่งความช่วยเหลือไปพร้อม ๆ กัน โดยศูนย์สั่งการอาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อส่งต่อให้กับทีมระหว่างเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

ข้อมูลที่จำเป็นต่อการส่งความช่วยเหลือ ได้แก่

  • ตำแหน่งของผู้ป่วย
  • ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้แจ้ง รวมถึงเบอร์ติดต่อผู้ที่อยู่ ณ ที่เกิดเหตุในกรณีที่ท่านไม่ได้อยู่กับผู้ป่วย
  • ข้อมูลเกี่ยวกับอาการผู้ป่วย เช่น ระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วย การหายใจ หรือภาวะเลือดออก เป็นต้น

ข้อมูลภยันตราย ณ ที่เกิดเหตุ เช่น ไฟไหม้ สายไฟฟ้าแรงสูงขาด อาวุธ หรือการใช้ความรุนแรงในที่เกิดเหตุ สภาพจราจร รวมถึงความเสี่ยงต่อโรคติดต่อ เช่น วัณโรค โควิด-19 หรือน้ำหนักของผู้ป่วยกรณีที่ผู้ป่วยมีน้ำหนักมาก ซึ่งต้องการการสนับสนุน หรือช่วยเหลือเพิ่มเติมในการดูแลผู้ป่วย ณ ที่เกิดเหตุ

ปฏิบัติตามคำแนะนำ !

ขอให้ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สั่งการและไม่วางสายจนกว่าเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ท่านวางสายได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อาจให้คำแนะนำในการช่วยเหลือผู้ป่วย ระหว่างรอหน่วยปฏิบัติการ เช่น การให้การปฐมพยาบาลผู้ป่วย การปั๊มหัวใจ หรือการเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย เป็นต้น

ในภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์นั้นเวลาคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่ศูนย์สั่งการจะส่งหน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินไปช่วยเหลือผู้ป่วยหากผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่บริการ และมีภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งระยะเวลาในการตอบสนองของทีมช่วยเหลือไปยังที่เกิดเหตุเหมาะสมกับความรุนแรงของอาการผู้ป่วย หากผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่ ๆ ไกลจากหน่วยบริการ และการรอคอยอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยมากขึ้น ศูนย์สั่งการจะแนะนำให้ท่านเรียกบริการรถพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย


การขอบริการส่งต่อระหว่างสถานพยาบาล

ขั้นตอนการติดต่อ

  1. แจ้งเจ้าหน้าที่ ณ สถานพยาบาลต้นทาง
    หากท่านต้องการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลของท่าน มายังโรงพยาบาลในเครือกรุงเทพดุสิตเวชการ ขอให้ท่านแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ ณ สถานพยาบาลที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา และแจ้งให้แพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยทราบความประสงค์ของท่าน
  2. ส่งต่อข้อมูลผู้ป่วย
    เจ้าหน้าที่รับเรื่องประจำศูนย์สั่งการจะสอบถามข้อมูลผู้ป่วยและเหตุผลในการเคลื่อนย้ายเพื่อให้เราสามารถให้บริการที่ปลอดภัยและเหมาะสมตามความต้องการของผู้ป่วย เอกสารส่งต่อข้อมูลผู้ป่วย ได้แก่ ประวัติการรักษา ผลการส่งตรวจวินิจฉัย มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัย และการวางแผนการรักษาที่ต่อเนื่อง ณ สถานพยาบาลปลายทาง
  3. การประเมินและชำระค่าใช้จ่ายในการบริการ
    หลังแพทย์อำนวยการทำการประเมินแล้วเห็นสมควรว่าผู้ป่วยสามารถเคลื่อนย้ายได้ และโรงพยาบาลยืนยันรับผู้ป่วยแล้ว ผู้ตรวจการจะประเมินและแจ้งราคาค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายแก่ท่าน การชำระค่าบริการอาจทำได้โดยการโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการออกเอกสารรับรองจากบริษัทคู่สัญญา หรือบริษัทประกันกรณีที่ได้รับความคุ้มครอง
  4. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
    หลังได้รับข้อมูลผู้ป่วยแล้ว แพทย์อำนวยการจะทำการประเมินความเสี่ยงในการเคลื่อนย้าย จากความรุนแรงของอาการผู้ป่วย สภาพถนน เส้นทาง สภาพอากาศ ความเหนื่อยล้าของทีม และตัดสินเลือกวิธีการเคลื่อนย้าย ประเภทของหน่วยปฏิบัติการ และเวลาที่เหมาะสมในการเคลื่อนย้าย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรเป็นสำคัญ
  5. สัมภาระของผู้ป่วยและผู้ร่วมเดินทาง
    ผู้ร่วมเดินทางอาจได้รับอนุญาตให้เดินทางไปกับผู้ป่วยได้ หากสามารถทำได้อย่างปลอดภัย โดยผู้ที่ร่วมเดินทางกับผู้ป่วย
    1. จะต้องได้รับการยืนยันตัวตนและอนุญาตจากศูนย์สั่งการ รวมถึงเจ้าหน้าที่สนามบินสำหรับการเคลื่อนย้ายทางอากาศ โดยส่งบัตรประจำตัว/หนังสือเดินทางไปที่ศูนย์สั่งการทางอีเมล
    2. จะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับกฎความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ และจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นอย่างเคร่งครัดตลอดการเคลื่อนย้าย

      กระเป๋าเดินทางขนาดพกพา 1 ใบอาจได้รับอนุญาตให้ขนย้ายบนรถพยาบาลหากสามารถยึดตรึงได้อย่างปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อบุคลากร และผู้ป่วย

      โปรดแจ้งศูนย์สั่งการหากคุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเดินทางของญาติ หรือเพื่อนของผู้ป่วย หรือการขนส่งสัมภาระเพิ่มเติม สัมภาระ/ของใช้ส่วนตัวจะถูกตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่รถพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่สนามบิน


ท่านสามารถอ่านคำแนะนำในการเคลื่อนย้ายด้วยรถพยาบาลได้โดยการแสกนเอกสาร QR CODE ด้านล่าง

BES