สายตาขี้เกียจ

2 นาทีในการอ่าน
สายตาขี้เกียจ

รู้จักสายตาขี้เกียจ

โรคสายตาขี้เกียจ (Amblyopia) ทำให้การมองเห็นภาพลดลง เป็นผลจากความผิดปกติของพัฒนาการของการมองเห็นในทารกหรือช่วงวัยเด็ก สายตาขี้เกียจเกิดจากการขนส่งกระแสรับภาพระหว่างตาและสมองทำงานไม่เต็มที่ ทำให้สมองรับภาพจากตาเพียงข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้าง หรือสมองเพิกเฉยต่อการรับภาพของตาข้างที่ด้อยกว่า ทำให้การมองเห็นของตาข้างนั้นลดลง สายตาขี้เกียจมักเกิดในเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 – 7 ปี หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา จะทำให้ตามัว การมองเห็นลดลงอย่างถาวร


อาการสายตาขี้เกียจ

  • ตาเข

  • ตาสองข้างไม่ทำงานประสานกัน

  • มีสายตาสั้น ยาว เอียงที่มากเกินไป หรือไม่เท่ากันระหว่างตา 2 ข้าง

  • มองภาพไม่ชัด โดยเฉพาะภาพทีมีความละเอียดสูง


ต้นเหตุสายตาขี้เกียจ

สาเหตุของสายตาขี้เกียจ ได้แก่

  • การทำงานของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการเคลื่อนไหวดวงตาทำงานไม่สมดุลกัน

  • การเบี่ยงเบนสายตามาใช้ตาเพียงข้างใดข้างหนึ่ง เช่น มีการติดเชื้อหรือเป็นต้อกระจกบริเวณตาข้างขวา ทำให้ใช้เพียงตาข้างซ้ายในการมองเห็น ฯลฯ

  • มีสายตายาว สั้น หรือเอียงทั้งสองข้างมากเกินไป หรือไม่เท่ากันทั้งสองข้าง

  • ความบกพร่องของอวัยวะรับภาพ หรือแปลผลภาพ เช่น เส้นประสาทตาฝ่อ แผลบริเวณจุดรับภาพในจอตา และการเสียหายของสมองส่วนที่แปลภาพจากการขาดออกซิเจน ฯลฯ

 

ถึงเวลาต้องพบแพทย์

ปกติในเด็ก กุมารแพทย์จะตรวจการมองเห็น ดูการตอบสนองของเด็กเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจร่างกายทั่วไป หากแพทย์หรือผู้ปกครองสงสัยว่าเด็กมีสายตาขี้เกียจ สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ได้ทันที และสำหรับเด็กทั่วไปแนะนำให้มาตรวจตาอย่างละเอียดครั้งแรกเมื่อมีอายุระหว่าง 3 – 5 ปี


รักษาสายตาขี้เกียจ

  • การผ่าตัด หากสาเหตุของสายตาขี้เกียจเกิดจากต้อกระจก เลือดออกในน้ำวุ้นตา หนังตาตก ควรผ่าตัดก่อน หลังจากนั้นค่อยฝึกและพัฒนาการมองเห็น โดยปิดตาข้างที่ดีกว่าเพื่อกระตุ้นตาอีกข้างที่ด้อยกว่าให้ถูกใช้งานมากขึ้น

  • การใช้แว่นสายตา หากปัญหาเกิดจากความผิดปกติทางสายตา

  • การปิดตาข้างที่ดี ใช้รักษาในกรณีที่มีตาเหล่หรือเริ่มมีตาขี้เกียจแล้ว โดยการปิดตาข้างที่ดีเพื่อให้ตาข้างที่ด้อยกว่าได้ใช้งาน ซึ่งควรปิดอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง จนกว่าสายตาทั้งสองข้างจะมองเห็นปกติ



การรักษาสายตาขี้เกียจจะประสบความสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ปกครองเป็นหลัก ตั้งแต่สังเกตพฤติกรรมการมองเห็นของลูกและการฝึกพัฒนาการมองเห็นโดยการปิดตา ซึ่งต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องให้กำลังใจและพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง

Loading

กำลังโหลดข้อมูล

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ

ชั้น 5 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ

จันทร์-ศุกร์ 08.00 - 19.00 น.

เสาร์ 08.00 - 17.00 น

อาทิตย์ 08.00 - 16.00 น.

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ดูแพทย์ทั้งหมด