หลายคนอาจสงสัยว่า โรคปวดศีรษะไมเกรนมีความสัมพันธ์กับโรคเส้นเลือดสมองอย่างไร ก่อนอื่นต้องท้าวความถึงโรคปวดศีรษะไมเกรนก่อน เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยที่สุดในวัยทำงาน (อายุประมาณ 30 - 40 ปี)
ทำไมอายุไม่เยอะ แต่มีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน มีอาการโคลงเคลงง่าย รักษาเท่าไรก็ไม่หายสักที อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่าเป็นไมเกรน
ปวดศีรษะอาการที่พบได้บ่อยในทุกช่วงอายุ ทั้งเพศชายและเพศหญิง ทำให้เกิดความทุกข์ทรมานทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ผู้ป่วยที่ปวดศีรษะรุนแรง ทำให้ประสิทธิภาพทำงานไม่ดีเท่าเดิม รวมทั้งยังทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง
ยาแก้ไมเกรนไม่ใช่ทางออกเสมอไป บางคนกินแล้วอาการปวดก็ยังไม่หายแถมยังสะสม ส่งผลกระทบต่อตับและไตหรือในคนไข้บางคนที่ไม่สามารถกินยาแก้ปวดเนื่องจากมีโรคประจำตัว การรู้วิธีบรรเทาปวดที่ถูกต้องคือสิ่งสำคัญ
ปวดศีรษะไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็ง พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 - 3 เท่า มักเริ่มมีอาการครั้งแรกตอนช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคน
อาการปวดศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงจะพบความชุกของโรคปวดศีรษะไมเกรน (Migraine Headaches) มากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า
สังคมก้มหน้าทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้หลายชนิด ซึ่งบางชนิดอาจเป็นรุนแรงจนถึงขึ้นต้องรักษาโดยการผ่าตัด การใช้งาน Smartphone หรือ Computer อย่างเหมาะสม จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดศีรษะ
การใช้ยารักษาอาการปวดศีรษะมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะอาการและความรุนแรงของอาการปวด
อาการนอนกรน เกิดในขณะนอนหลับ กล้ามเนื้อคอจะผ่อนคลายและหย่อนตัว ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง อากาศที่เคลื่อนผ่านทางเดินหายใจที่แคบลง
นอนกรน (Snoring) ถึงแม้ว่าคนเราอาจมีแค่อาการกรนอย่างเดียวโดยไม่มีอาการอื่นๆร่วมด้วย (primary snoring) อาการกรนเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนไข้ obstructive sleep apnea ชึ้งมีผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว เช่น cardiovascular problems, metabolic syndrome และอื่น ๆ
โรคต่าง ๆ เกี่ยวกับการนอนหลับผิดปกติ (Sleep Disorders) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนไข้เกือบทุกวัย ไม่ว่าจะมีอาการในระยะสั้น (acute) หรือเป็นเรื้อรัง (chronic) ควรมาตรวจวินิจฉัยให้ชัดเจน
ปัจจุบัน Botulinum toxin มีบทบาทในวงการแพทย์มากมาย หนึ่งในนั้นคือ นำมาใช้รักษาโรคไมเกรนและอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ