เมื่อสูงวัยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาในทุกระบบ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผิวหนังเหี่ยวย่นมีอาการผิวแห้งได้ง่าย ระบบกระดูกและข้อเสื่อมถอยทำให้เคลื่อนไหวได้ช้าลง หกล้มได้ง่าย มวลกล้ามเนื้อลดลง ทำให้พละกำลังลดน้อยลง ตามัวมองไม่ชัด หูตึงทำให้การได้ยินลดลง ความจำไม่ค่อยดี จำเหตุการณ์ปัจจุบันไม่ค่อยได้ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ยาก อารมณ์อาจจะมีวิตกกังวล เครียด ซึมเศร้า คิดซ้ำ ๆ ทำให้ผู้สูงอายุเริ่มแยกตัวออกห่างจากสังคมมากขึ้น ไม่กล้าทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น
การเตรียมพร้อมทางด้านร่างกาย
- ลดภาระหน้าที่ให้น้อยลง ไม่ควรหักโหมงานหนัก หรืออาจให้บุตรหลาน บริวาร ช่วยแบ่งเบาหน้าที่การงาน
- หากเจ็บป่วยเล็กน้อยควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ไม่ควรปล่อยไว้นานจนกลายเป็นโรคเรื้อรัง
- หลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง เลี่ยงพฤติกรรมหรือเล่นกีฬาเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ
- การมี Lifestyle ที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารถูกสุขลักษณะ มีการขับถ่าย การนอนหลับ ที่เป็นปกติ
การเตรียมพร้อมทางด้านจิตใจและสังคม
- นอนหลับให้เต็มที่ ไม่เครียด รู้จักปล่อยวาง
- เข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงความไม่แน่นอนต่าง ๆ ของตนเอง ครอบครัว และสังคม
- ดำรงตนให้เป็นที่เคารพรักของลูกหลาน ครอบครัว และสังคม
- ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม โดยควรเป็นกิจกรรมที่ชอบ
- ควรมีเพื่อนทั้งวัยเดียวกันและต่างวัย เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน
- สนใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
- ควรเข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุ หรือเข้าร่วมทำกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ
- ทางด้านกฎหมาย ควรทำพินัยกรรมไว้เพื่อความไม่ประมาท
อายุที่เพิ่มขึ้นย่อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ดังนั้นการดูแลตนเองอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สุขภาพกายใจแข็งแรงและมีอายุที่ยืนยาว