นอนกรนอย่าคิดว่าไม่สำคัญ

2 นาทีในการอ่าน
นอนกรนอย่าคิดว่าไม่สำคัญ

น่าแปลกที่คนนอนกรนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ความจริงแล้วการนอนกรนเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพทั้งตัวผู้กรนเองและรบกวนต่อผู้ที่อยู่ด้วย ซึ่งหากไม่ตรวจเช็กและดูแลรักษาอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ หากพบภาวะการหยุดหายใจขณะหลับ ดังนั้นหากรู้ตัวว่านอนกรนควรได้รับการตรวจว่าการกรนนี้มีอันตรายหรือไม่

 

นอนกรนใครก็เป็นได้

การกรนเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยจากการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เมื่อหายใจแต่ละครั้งเกิดการสั่นและมีเสียงกรนเกิดขึ้น ซึ่งความเบาและดังไม่แน่นอน และบางครั้งอาจเงียบหายไปจากการที่ทางเดินหายใจถูกอุดกั้นจนเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ส่งผลให้หลับไม่ลึก หัวใจทำงานหนัก เพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองตีบ ระดับฮอร์โมนไม่สมดุล ง่วงเพลียตอนกลางวัน อารมณ์ไม่คงที่ และปัญหาสุขภาพอีกมากมาย โดยเฉพาะในเด็กที่นอนกรนจะส่งผลต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกาย การเรียนรู้ และอารมณ์ ดังนั้นจึงไม่ควรชะล่าใจและรีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษา


กรนแบบไหนน่าเป็นห่วง

  • กรนเสียงดังมาก จนอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่อผู้ใกล้ชิด
  • กรนสลับกับหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ
  • กรนแล้วสะดุ้งเฮือก สำลักน้ำลาย หายใจไม่ออก
  • รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ไม่สดชื่นแม้ว่าชั่วโมงการนอนจะเพียงพอ
  • ปวดมึนศีรษะแทบทุกเช้า
  • ง่วงมากในตอนกลางวัน อาจเคยมีประวัติการเกิดอุบัตเหตุจราจรจากความง่วงนอน
  • ปากแห้ง คอแห้ง เจ็บคอเมื่อตื่นนอน 
  • นอนกัดฟัน
  • ในเด็กอาจพบลักษณะตัวเล็กต่ำกว่าเกณฑ์ สมาธิไม่ดีจากการพักผ่อนไม่พอ

กลุ่มเสี่ยงนอนกรน

  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
  • ผู้ที่ป่วยเป็นภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ
  • ผู้ที่ต่อมทอนซิลโต
  • ผู้ที่สันจมูก รูปหน้า คางสั้นผิดปกติ
  • ผู้หญิงตั้งครรภ์
  • ผู้หญิงที่เข้าวัยหมดประจำเดือน
  • ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • ผู้ที่กินยาที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงนอน

นอนกรนอย่าคิดว่าไม่สำคัญ

ตรวจวินิจฉัยนอนกรน

แพทย์จะทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เจาะเลือด ตรวจรังสี รวมถึงพิจารณาการตรวจการนอนหลับชนิดค้างคืนในโรงพยาบาล (Full-night Sleep Test) เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุอย่างละเอียด เพื่อให้ทราบว่าอาการนอนกรนมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วยหรือไม่ หรืออาจพิจารณาการตรวจการนอนหลับแบบตรวจที่บ้าน เช่น Home-sleep test หรือ Watch-pat ในบางราย เพื่อใช้ข้อมูลการตรวจในการพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป


รักษาภาวะนอนกรน

  • ปรับพฤติกรรม อย่างการลดน้ำหนัก การนอนตะแคง การเข้านอนให้เป็นเวลา งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ฯลฯ
  • ใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เพื่อขยายช่องทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
  • การผ่าตัด ช่วยรักษาอาการกรนได้ดี แต่ต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น โดยจะพิจารณาในผู้ป่วยแต่ละบุคคล

     

หากมีภาวะนอนกรนอย่าละเลย เพราะปัญหาสุขภาพที่ตามมาอาจใหญ่กว่าที่คิด และการรักษาที่เหมาะสมสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตและคุณภาพการนอนได้ ดังนั้นจึงควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจเช็กสุขภาพการนอนหลับ


ถ้าอยากรู้เบื้องต้นว่าคุณเสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่?
สามารถเข้าไปตอบคำถาม STOP – BANG เพื่อคัดกรองภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วยตนเอง คลิก

ดูแพ็กเกจเพิ่มเติม คลิก


 

ข้อมูลโดย

Doctor Image
นพ. รุตติ ชุมทอง

โสต ศอ นาสิกวิทยา

โสต ศอ นาสิกวิทยาการนอนหลับ
นพ. รุตติ ชุมทอง

โสต ศอ นาสิกวิทยา

โสต ศอ นาสิกวิทยาการนอนหลับ
Doctor profileDoctor profile
Loading

กำลังโหลดข้อมูล

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์หู คอ จมูก

ชั้น 7 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ



วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.00 - 19.00 น

วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 08.00 - 16.00 น.

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ดูแพทย์ทั้งหมด