ความหนุ่มสาวเป็นที่ปรารถนาของทุกคน แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้นจะทำอย่างไรให้สุขภาพดีไม่ร่วงโรยไปตามวัย อีกทั้งรูปร่าง หน้าตาดูอ่อนกว่าวัย คำตอบก็คือ Anti – Aging คือการดูแลสุขภาพจากภายในตั้งแต่อาหารการกิน การออกกำลังกาย และไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงห่างไกลจากโรค ชะลอความชรา หรือที่เรียกกันว่า “เวชศาสตร์ชะลอวัย ” ที่เน้นการป้องกัน ฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกาย ด้วยการรักษาสมดุลของร่างกาย
โดยเฉพาะเรื่องของ “อาหาร” เป็นสิ่งสำคัญ สารอาหารหลักที่คนสมควรได้รับมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
- Macronutrients เป็นอาหารที่ให้พลังงาน สร้างการเจริญเติบโต เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต
- Micronutrients ประกอบไปด้วย วิตามิน เกลือแร่ ที่ส่งผลต่อเอนไซม์ระบบเมตาบอลิซึม (Metabolism) และระบบภูมิคุ้มกัน (Immune)
วิตามินสำคัญและช่วยแก้ปัญหาสุขภาพได้อย่างไร
Vitamin มีความสำคัญเห็นได้จากรากศัพท์ของวิตามินซึ่งมาจาก Vita ซึ่งหมายถึงชีวิต กับคำว่า Amine ซึ่งหมายถึงสารอินทรีย์ รวมกันเป็น Vitamin ซึ่งหมายถึงสารอินทรีย์ที่สำคัญต่อชีวิต
วิตามินเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย แต่ไม่สามารถขาดได้ เพราะถ้าขาดจะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายผิดปกติและเกิดโรคต่าง ๆ ได้
“ร่างกายไม่ได้ต้องการวิตามินในปริมาณมาก แต่ต้องการทุกวัน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับในปริมาณที่เหมาะสมทุกวัน วิตามินมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ระบบการขับถ่าย ระบบการเจริญเติบโต และที่สำคัญคือระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินจึงจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในแต่ละวันของเราในแทบทุกระบบ”
ทุกคนต้องรับประทานวิตามินเสริมหรือไม่
ไม่จำเป็น ถ้าคุณรับประทานอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ คือโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
ใครบ้างจำเป็นต้องรับประทานวิตามินเสริม
ผู้ที่สมควรได้รับวิตามินเสริม ได้แก่ ผู้ที่มีระบบดูดซึมไม่ดี มีปัญหาลำไส้ ผู้ที่รับประทานน้อย รวมถึงบุคคลที่กำลังลดน้ำหนัก คนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ หญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร คนที่เจ็บป่วย และผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้อาจได้รับสารอาหารและวิตามินไม่เพียงพอ สมควรได้รับวิตามินเสริม
ในสมัยที่วิถีชีวิตของคนเรายังคงพึ่งพิงธรรมชาติเป็นหลัก วิถีชีวิตไม่ได้เร่งรีบ อาหารที่ได้มาก็มาจากธรรมชาติ ไม่มีการใส่ปุ๋ยเคมี ไม่มีโรงสี ไม่มียาฆ่าแมลง หิวก็เดินไปเด็ดกล้วยหน้าบ้าน สมัยนั้นแทบไม่มีความจำเป็นเลยที่เราจะต้องบริโภควิตามิน
แต่ในปัจจุบันสิ่งที่คนเราเรียกว่า “อาหาร” นั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก คนเราสร้างสรรค์อาหารออกมามากมาย ปรุงแต่งมากขึ้น และห่างไกลธรรมชาติออกไปทุกที การปรุงแต่งและขัดสี ทำให้สารอาหารและวิตามินพร่องลงไปเรื่อย ๆ อีกทั้งสารไฟโตนิวเทรียน ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่ได้มาจากพืชก็หดหายไป ประกอบกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ไม่สามารถเลือกบริโภคอาหารทั้ง 5 หมู่ได้ครบ ส่งผลให้ร่างกายขาดแคลนวิตามินได้ง่าย ๆ
ตามหลักการของ “เวชศาสตร์ชะลอวัย” เป้าหมายสำคัญคือ ป้องกันไม่ให้เป็นโรค ด้วยการรักษาสมดุลของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ดี (Optimum) คือทางสายกลาง ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป หากระดับวิตามินในร่างกายลดลงหรือที่เราเรียกว่า Sub – Optimum คนทั่วไปก็ไม่สามารถบอกได้ว่าร่างกายของตนนั้นกำลังขาดวิตามินอะไร เพราะร่างกายก็ยังคงทำงานต่อไป ไม่ได้แสดงอาการเจ็บป่วยจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล หากแต่ความไม่สมดุลของร่างกายนั้นไม่มีอาการแน่ชัด บางคนอาจมาด้วยอาการหงุดหงิด เพลียง่าย อ้วนง่าย ลงพุง มีผื่นขึ้นง่าย ท้องผูก ภูมิแพ้กำเริบ หรือแม้แต่หย่อนสมรรถภาพทางเพศก็เป็นได้
พญ.ปิยะมาศ สิทธิปรีดานันท์ กล่าวถึงพฤติกรรมการบริโภควิตามินว่า “ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น มีการหาซื้อวิตามินเสริมมารับประทานกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เป็นการหาซื้อมารับประทานเองไม่ได้มีแพทย์สั่ง บ้างก็รับประทานตามที่ได้ยินมาว่าวิตามินตัวไหนดี ถ้าหากถามหมอว่าดีไหม ก็ต้องบอกว่าดีกว่าไม่รับประทาน แต่การซื้อวิตามินมารับประทานเองจะไม่สามารถบอกได้ว่าเราได้รับในปริมาณที่พอดีหรือไม่ เพราะหากได้รับเยอะเกินไป ก็เป็นภาระกับตับและไต เป็นการสิ้นเปลืองแถมยังทำร้ายร่างกายอีกด้วย”
ในปัจจุบันวิวัฒนาการของการบริโภควิตามินได้เปลี่ยนไปแล้ว มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและทันสมัยในการตรวจสภาวะของร่างกายโดยละเอียด สามารถตรวจวัดระดับวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงการตรวจวัดระดับฮอร์โมนต่าง ๆ เพื่อการดูแลและแก้ปัญหาเฉพาะบุคคลอย่างตรงจุด และเมื่อทราบว่าร่างการขาดอะไร แพทย์ก็สามารถปรุงวิตามินให้กับคนไข้ได้อย่างเหมาะสม
Personalization Vitamin วิตามินปรุงขึ้นเฉพาะบุคคล
การบริโภควิตามินในศตวรรษนี้คือ “Personalization Vitamin” หรือวิตามินที่ปรุงขึ้นเฉพาะบุคคล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย แนะนำว่า ไม่มีวิตามินยี่ห้อไหนดีที่สุด แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือวิตามินที่เหมาะกับบุคคลนั้น ๆ
ข้อดีของวิตามินที่ปรุงขึ้นเฉพาะบุคคล คือ คุณจะได้รับวิตามินที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ทั้งชนิดและปริมาณในการบริโภคที่ถูกต้องโดยผู้ชำนาญการ “ไม่ใช่” รับประทานตามใจตนเอง ตามเพื่อน ตามกระแส เพราะวิตามินตัวหนึ่งไม่ได้เหมาะกับทุกคนในโลก
เพื่อให้เกิดความ “คุ้มค่า” ในการลงทุนด้านสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนว่า คุณควรรับประทานวิตามินหรือแร่ธาตุชนิดไหน วิตามินรูปแบบไหนที่เหมาะสมสำหรับคุณ ดีกว่าจะต้องเสียเงินเสียทองซื้ออาหารเสริมมาทำร้ายตับและไตตัวเอง