ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก

ห้องผ่าตัด (OPERATING ROOM)

ห้องผ่าตัดที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลผู้ที่มีปัญหามีบุตรยาก ห้องผ่าตัดที่เชื่อมต่อโดยตรงกับห้องแล็บทันสมัย พร้อมระบบที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกขั้นตอนการรักษาผู้มีบุตรยากเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการรักษาและเพิ่มโอกาสในความสำเร็จได้อย่างครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและทีมแพทย์ผู้ชำนาญการในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น

• การฝากไข่ สำหรับการเก็บรักษาไข่เพื่ออนาคต
• การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) ด้วยเทคโนโลยีการปฏิสนธินอกร่างกายและการฝังตัวอ่อนคุณภาพสูง
• การผ่าตัดอัณฑะเพื่อเก็บอสุจิ ในกรณีที่ไม่สามารถเก็บอสุจิจากการหลั่งได้เอง หรือมีปัญหาน้ำเชื้อผิดปกติ
• การตรวจความพร้อมเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อความมั่นใจในการฝังตัวอ่อน

ทุกกระบวนการได้รับการดูแลจากทีมสูติแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อน และทีมสหสาขาที่พร้อมให้การดูแลในทุกขั้นตอน 

ด้วยห้องผ่าตัดที่กว้างขวาง สะอาด และทันสมัย รองรับทุกหัตถการเพื่อการรักษาภาวะมีบุตรยากโดยเฉพาะตามมาตรฐานระดับสากล ทุกขั้นตอนได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในบรรยากาศที่อบอุ่น สงบ เป็นมิตร และมีความเป็นส่วนตัว เพื่อให้คุณรู้สึกมั่นใจในทุกการรักษาที่ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ 

เราพร้อมให้การดูแลคุณทุกขั้นตอน สร้างความมั่นใจ และเพิ่มโอกาสความสำเร็จสำหรับครอบครัวคุณ”

 

ห้องพักฟื้น (RECOVERY ROOM)

ห้องพักฟื้น (Recovery Room) ที่ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ ถูกออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การดูแลที่เป็นส่วนตัวและสะดวกสบาย ภายใต้มาตรฐานสากล ทุกขั้นตอนการรักษา ทั้งการเก็บไข่และการใส่ตัวอ่อนในการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันในบรรยากาศที่สะอาดและใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณได้รับการบริการที่ดีที่สุด 

ทีมแพทย์และพยาบาลที่มีความชำนาญคอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลาหลังการทำหัตถการเพื่อให้คุณมั่นใจในทุกขั้นตอน ด้วยการดูแลที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว 

เพราะเราทราบดีว่าการพักผ่อนที่มีคุณภาพเป็นส่วนสำคัญในการสร้างผลสำเร็จในการรักษา
และการมีบุตรที่ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ”

 

ห้องปฏิบัติการตรวจคุณภาพอสุจิ (SPERM LABORATORY)

ห้องปฏิบัติการตรวจคุณภาพอสุจิ (Sperm Laboratory) ที่ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมให้บริการตรวจสอบคุณภาพอสุจิอย่างละเอียด ทั้งดูปริมาณ, การเคลื่อนไหว, รูปร่าง หรือ DNA Fragmentation โดยทีมนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์อสุจิตามมาตรฐานสากล เพื่อให้คำแนะนำและการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคล

ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ ใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการตรวจสอบและช่วยเลือกเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับคุณ เช่น การแช่แข็งอสุจิ (Sperm Freezing) หรือการคัดเลือกอสุจิด้วยเทคนิค MACs Sperm เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการรักษาภาวะมีบุตรยาก 

เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนด้วยการตรวจวิเคราะห์และการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
เพื่อให้คุณได้สร้างครอบครัวในแบบที่ต้องการ”

 

ห้องปฏิบัติการเก็บตัวอ่อนและแช่แข็งไข่ (EMBRYO & EGG FREEZING)

ห้องปฏิบัติการเก็บตัวอ่อนและแช่แข็งไข่ (Embryology Laboratory) ที่ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลรักษาภาวะมีบุตรยาก ห้องปฏิบัติการมีการใช้เทคโนโลยีตู้เพาะเลี้ยงตัวอ่อน (Time – Lapse Embryoscope) เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้การเพาะเลี้ยงตัวอ่อนมีคุณภาพยิ่งขึ้น ภายในเครื่องติดตั้งกล้องถ่ายภาพจุลทรรศน์คุณภาพสูง ที่สามารถติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนได้อย่างละเอียด โดยมีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนแต่ละตัวในหลุมเพาะเลี้ยงตัวอ่อนแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อให้ติดตามและควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมที่สุด สำหรับการพัฒนาของตัวอ่อนแต่ละตัวในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต อีกทั้งยังสามารถติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนได้ผ่านภาพถ่ายความละเอียดสูงอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อนสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจให้การรักษาได้อย่างถูกต้องในทุกกระบวนการโดยไม่รบกวนตัวอ่อน

กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว คือ การรักษาภาวะมีบุตรยากที่ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาการตั้งครรภ์สามารถมีบุตรได้ โดยเป็นกระบวนการที่ใช้การปฏิสนธินอกร่างกาย โดยในขั้นตอนแรก ฝ่ายหญิงจะได้รับการกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้ไข่โตหลายใบอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะทำการเก็บไข่จากรังไข่ผ่านช่องคลอด จากนั้นไข่จะถูกนำมาผสมกับอสุจิในห้องปฏิบัติการด้วยวิธี IVF/ICSI และเพาะเลี้ยงตัวอ่อนในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นระยะเวลา 5 – 6 วัน หลังจากนั้นตัวอ่อนจะได้รับการดึงเซลล์บางส่วนไปตรวจโครโมโซม และแช่แข็งเพื่อเก็บรักษาอย่างดี โดยสามารถเก็บรักษาได้นานหลายปี 

ปัจจุบันนวัตกรรมการแช่แข็งไข่และตัวอ่อนมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจคือ การแช่แข็งไข่และตัวอ่อนแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ซึ่งเป็นการลดอุณหภูมิในขณะแช่แข็งให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งในเซลล์ไข่และตัวอ่อน ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของตัวอ่อนหลังจากการละลาย และเพิ่มโอกาสในการมีบุตรให้สูงขึ้นอย่างมาก

• การทำ IVF (In – Vitro Fertilization) คือกระบวนการที่นำอสุจิและไข่ที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกนำมาผสมกันในห้องปฏิบัติการโดยการผสมธรรมชาติ (ไม่ใช้เข็มในการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่) เมื่อการปฏิสนธิเกิดขึ้น ตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิจะได้รับการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการประมาณ 5 – 6 วัน
• การทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) คือ กระบวนการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิสนธิ โดยใช้เข็มขนาดเล็กส่งอสุจิ 1 ตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิสำหรับผู้ที่มีปัญหาคุณภาพอสุจิหรือไข่จนประสบภาวะมีบุตรยาก จากนั้นจะทำการเลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการประมาณ 5 – 6 วัน 

โดยสรุปคือทั้ง 2 วิธีเป็นกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วทั้งคู่ แต่ IVF เป็นการผสมอสุจิและไข่ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติในห้องปฏิบัติการ ขณะที่ ICSI จะมีการใช้เข็มฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรงเพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ

การแช่แข็งไข่ (Oocyte Cryopreservation) เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการเก็บรักษาความสามารถในการมีบุตรในอนาคต โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรในปัจจุบัน แต่ต้องการรักษาทรัพยากรไข่ไว้เพื่อใช้ในอนาคต เช่น ผู้หญิงที่มุ่งมั่นในอาชีพการงาน การศึกษา หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการที่อาจส่งผลต่อการมีบุตรในภายหลัง เช่น การรักษาโรคมะเร็งที่ต้องใช้เคมีบำบัดหรือการฉายรังสี  การแช่แข็งไข่จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้สามารถตัดสินใจเรื่องการมีบุตรในเวลาที่พร้อมมากขึ้น โดยในขั้นตอนแรก ฝ่ายหญิงจะได้รับการกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้ไข่โตหลายใบอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงทำการเก็บไข่จากรังไข่ผ่านช่องคลอดเพื่อเลือกไข่ที่สมบูรณ์สำหรับการแช่แข็งที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส 

การแช่อสุจิ (Sperm Cryopreservation) คือ กระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีการแช่แข็งอสุจิเพื่อเก็บรักษาไว้ในสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในอนาคต เช่น ในกรณีที่ผู้ชายต้องการเก็บอสุจิก่อนที่จะทำการรักษาหรือการผ่าตัดที่อาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตอสุจิ หรือในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) การแช่อสุจิช่วยให้สามารถใช้ตัวอสุจิในอนาคตได้ โดยอสุจิจะถูกแช่แข็งในอุณหภูมิที่ต่ำมาก เพื่อป้องกันการทำลายของเซลล์และยังคงสามารถนำมาใช้ในการปฏิสนธิได้ภายหลัง 

เราใส่ใจในการควบคุมสภาพแวดล้อม ทั้งฝุ่นละออง ความชื้นและอุณหภูมิ รวมทั้งตรวจสอบค่าสารพิษในอากาศ มีมาตรการรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการดูแลไข่และการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน”