รู้จักข้อไหล่
ข้อไหล่เป็นข้อต่อที่สำคัญอันหนึ่งของร่างกาย ข้อไหล่ประกอบไปด้วย กระดูกหัวไหล่ Humerus และ กระดูกเบ้าหัวไหล่ Glenoid ซึ่งลักษณะทางกายภาพจะคล้ายกับลูกกอล์ฟบนแท่นที ความมั่นคงของข้อไหล่จึงต้องอาศัยเยื่อหุ้มข้อไหล่ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อโดยรอบเพื่อให้สามารถขยับได้ตามต้องการ เช่น การเอื้อมหยิบของเหนือศรีษะ การอ้อมแขนเกาหลัง หรือการใส่เสื้อผ้า
ภาวะข้อไหล่ติดยึด
ภาวะข้อไหล่ติดยึด สามารถพบได้บ่อยในช่วงวัยกลางคน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยมักจะมีอาการปวดบริเวณหัวไหล่ ทำให้มีความลำบากในการทำกิจกรรมประจำวัน เช่น สวมเสื้อ เกาหลัง หรือทำให้มีอาการปวดหัวไหล่เวลานอน อาจแบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ได้แก่
-
Primary Stiff Shoulder คือ ภาวะข้อไหล่ติดยึดโดยไม่มีสาเหตุ
-
Secondary Stiff Shoulder คือ ภาวะข้อไหล่ติดยึดโดยเกิดจากพยาธิสภาพในข้อไหล่ เช่น จากอุบัติเหตุเกี่ยวกับหัวไหล่ หรือจากโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ โรคไต โรคหัวใจ ฯลฯ
ระยะข้อไหล่ติดยึด
การดำเนินโรคข้อไหล่ติดยึดนั้นมี 3 ระยะ
-
ระยะอักเสบ (Inflammatory Phase)
-
ระยะข้อยึดติด (Frozen Phase)
-
ระยะคลายตัว (Thal Phase)
วินิจฉัยข้อไหล่ติดยึด
การวินิจฉัยภาวะข้อไหล่ติดยึดนั้น นอกจากการซักประวัติ ตรวจร่างกายแล้ว ต้องมีการส่ง X Ray, Ultrasound หรือ MRI เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของการติดยึด เพื่อการวางแผนการรักษาที่ถูกต้อง
รักษาภาวะข้อไหล่ติดยึด
การรักษาภาวะข้อไหล่ติดยึดแบ่งได้เป็น 2 แบบได้แก่
- การรักษาโดยไม่ผ่าตัด ได้แก่
- การทานยา
- การฉีดยา Steroid
- การทำกายภาพบำบัดเพิ่มวิสัยการเคลื่อนไหวข้อไหล่
- การรักษาโดยการผ่าตัด เมื่อได้ทำการรักษาแบบไม่ผ่าตัดมาอย่างน้อย 6 – 12 เดือนแล้วยังมีภาวะไหล่ติดยึดอยู่ แล้วเป็นปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวันจึงจะพิจารณาการรักษาโดยการผ่าตัด ปัจจุบันมีการรักษาแบบส่องกล้องข้อไหล่ ซึ่งได้ผลดีและมีการฟื้นตัวได้เร็ว ทำให้การรักษาภาวะข้อไหล่ติดยึดนั้นไม่น่ากลัวอีกต่อไป
โดยปกติแล้วภาวะไหล่ติดยึดโดยไม่มีสาเหตุนั้นสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นข้อไหล่ติดยึดโดยมีสาเหตุ เช่น เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาดหรือมีความผิดปกติของกระดูกหัวไหล่ต้องรักษาที่ต้นตอนั้น ๆ