เบาหวานเป็นโรคที่ต้องระวังอย่างมาก เพราะหากคุมเบาหวานไม่ได้อาจป่วยเป็นโรคหัวใจ ป่วยเป็นโรคไตจนต้องฟอกเลือด มีแผลที่เท้าแล้วไม่หายจนติดเชื้อต้องตัดขา แม้กระทั่งถ้าป่วยเป็นโควิดช่วงที่น้ำตาลในเลือดสูงอาจป่วยหนักจนถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นการสังเกตสัญญาณเตือนโรคเบาหวานจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ
สัญญาณเตือนเบาหวาน
9 สัญญาณเตือนโรคเบาหวานดังต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้และหมั่นสังเกต หากมีอาการให้รีบมาตรวจเช็กกับแพทย์เฉพาะทางทันที เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังป่วยเป็นเบาหวานหรือไม่ จะได้ดูแลตนเองอย่างถูกวิธี
- กระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติ
- ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ หรือปัสสาวะปริมาณมากกว่าปกติ
- หิวบ่อย กินอาหารมากกว่าเดิม
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- สายตาพร่ามัว มองไม่ชัด
- รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- มีแผลและแผลหายช้ากว่าปกติ
- ชา ปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกเหมือนมีมดไต่ที่ปลายมือปลายเท้า
- ผิวหนังแห้ง คัน
ภัยเงียบเบาหวาน
เบาหวานเป็นภัยเงียบที่มาแบบไม่รู้ตัว เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการมาก่อน ดังนั้นในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน อาทิ มีภาวะอ้วน มีญาติหรือคนในครอบครัวสายตรงเป็นเบาหวาน เป็นต้น แม้ยังไม่มีอาการก็ควรตรวจคัดกรองเบาหวานเป็นประจำทุกปี เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนแสดงอาการ อาจเป็นหนักและเกิดผลข้างเคียงที่ยากจะรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้
เช็กตัวเองให้ห่างไกลเบาหวาน
การเช็กตัวเองอยู่เสมอช่วยให้ห่างไกลเบาหวานและผลข้างเคียงจากเบาหวานสิ่งที่ควรทำคือ
- สังเกตตัวเอง อยู่เสมอว่ามีอาการผิดปกติตามสัญญาณข้างต้นหรือไม่
- ดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันตัวเองจากเบาหวาน ทั้งการคุมอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม
- ตรวจเช็กตัวเอง โดยการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลตามความเหมาะสม
เนื่องในวันเบาหวานโลก นพ.โองการ สาระสมบัติ อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคเบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และเมตะบอลิสม โรงพยาบาลกรุงเทพ ฝากว่า “ไม่ว่าจะมีความเสี่ยงเบาหวานหรือไม่ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันโรคเบาหวานเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้ทุกคนรับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ และตรวจเช็กเบาหวานเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้รู้เท่าทันและห่างไกลจากโรคเบาหวาน”